พิกัดเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว เที่ยวสนุก นอนอุ่น ฟินแน่นอน

โนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu)

เปิดทริปเที่ยวฮอกไกโดฤดูหนาว ต้องไม่พลาดไปตามรอยหนังดังเรื่องแฟนเดย์กันที่เมืองโนโบริเบ็ทสิ (Noboribetsu) แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของทัวร์ฮอกไกโด เมืองโนโบริเบทสึ(Noboribetsu) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำพุร้อน มีหมู่บ้านออนเซ็นที่ได้ชื่อว่ามีความงดงามที่สุดและดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่นโดยบ่อน้ำพุร้อนที่งดงามที่สุดคือ บ่อจิโงคุดานิ(Jigokudani or Hell Valley) นอกจากนั้น เมืองนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวฮอตฮิตอีกมากมาย ทั้งหุบเขานรกจิโงคุดานิ แหล่งต้นธารของบ่อน้ำร้อน หมู่บ้านนินจาโนโบริเบทสึ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาล(Noboribetsu Bear Park) อควาเรียมและสวนสนุก(Marine Park Nixe) และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำต่างๆ การเดินทางมาเที่ยวชมเมืองใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชม. ด้วย JR จากสนามบิน New Chitose Airport มาถึงแล้วก็มีรถบริการสาธารณะมากมายที่ให้เราใช้เดินทางไปท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้อย่างสะดวก

หุบเขานรกจิโงคุดานิ (Jigokudani noboribetsu) เมือง Noboribetsu

มาต่อกันที่แลนมาร์คสำคัญของเมืองโนโบริเบทสึนั่นก็คือ หุบเขานรกจิโงคุดานิ (Jigokudani noboribetsu) สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถูกเรียกว่าหุบเขานรก เพราะมีธารน้ำที่มีควันพวยพุ่งจากแร่กำมะถัน พื้นที่โดยรอบเป็นหุบเขาสลับซับซ้อนสวยงามมาก ใครที่อยากมาทัวร์ฮอกไกโดแบบเดินทางท่องเที่ยวแนวธรรมชาติต้องไม่พลาดมาที่นี่ เพราะมีเส้นทางเดิมชมธรรมชาติที่สวยงาม ในฤดูหนาวเราจะได้ชมวิวที่แปลกตาสุดๆ เพราะจะเห็นสะพานไม้ทอดยาวไปกับภูเขาสีส้มอิฐที่ปกคลุมด้วยหิมะ อารมณ์เดียวกันเป๊ะกับหนังดังเรื่องแฟนเดย์ที่พระเอก นางเอกมาสบตาฟินๆ กันท่ามกลางหิมะขาวโพลน ส่วนการเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ยาก แค่นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ NOBORIBETSU มาลงที่หมู่บ้านออนเซ็นก็สามารถเดินไปชมหุบเขานรกจิโงคุดานิได้แล้วล่ะ

ช่วงเวลาเปิด-ปิดเปิดให้เข้าชมได้ตลอดปี ยกเว้นหนาวจัดจนหิมะปิดปกคลุมเส้นทาง การเช้าชมเปิดให้เข้าชมฟรี

หมู่บ้านดาเตะจิไดมุระ Noboribetsu Date Jidaimura

ยังคงอยู่กันที่เมืองโนโบริเบทสึ(Noboribetsu) มาแล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมชม หมู่บ้านดาเตะจิไดมุระ หมู่บ้านจำลองวิถีชีวิตของชาวเอโดะในสมัยโบราณ ใครชอบมาทัวร์ญี่ปุ่นแบบได้เรียนรู้วัฒนธรรมดั้งเดิมด้วยต้องชอบมากๆ เพราะที่นี่มีการแสดงต่างๆ และมีการจำลองทั้งโรงละคร วัด ร้านค้า ไปจนถึงหมู่บ้านนินจา หมู่บ้านซามูไร ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่แบบย้อนยุคของชาวญี่ปุ่น การเดินทางมาเที่ยวชมก็ไม่ซับซ้อน นั่งรถบัส Donan ออกจากสถานีรถไฟ JR Noboribetsu-Sanai Byoin Mae โดยใช้เวลา 8 นาที แล้วเดินเท้าต่ออีกนิดหน่อยก็ถึงหมู่บ้านดาเตะจิไดมุระแบบสบายๆ ค่ะ

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

เปิดบริการทุกวัน

เมษายน-ตุลาคม เปิดให้บริการเวลา 9:00-17:00

พฤศจิกายน-มีนาคม เปิดให้บริการเวลา 9:00-16:00

การเช้าชม

มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 2.900 เยน / เด็ก 1,500 เยน /เด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบ 600 เยน

คิโรโระ สกีรีสอร์ท (Kiroro Ski Resort)

คิโรโระ สกีรีสอร์ต (Kiroro Ski Resort)

คิโรโระ สกีรีสอร์ท (Kiroro Ski Resort) แลนมาร์คสุดฟินในฝันของการเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว สกีรีสอร์ทแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านอะไกกาว่า (Akaigawa Village) ใกล้ ๆ กับเมืองโอตารุ ความฟินของที่นี่ก็คือในฤดูหนาวพื้นที่รอบๆ รีสอร์ตจะเป็นลานเล่นสกีหิมะคุณภาพเยี่ยม มองไปทางไหนก็สวยงามขาวโพลนไปสุดสายตา หิมะที่นี่มีความนุ่มละเอียดเหมือนแป้งฝุ่น ทิวทัศน์ล้อมรอบด้วยทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาสูงต่ำซับซ้อน ใครไม่ชอบเล่นสกีก็ไม่ต้องกังวล เพราะแค่มาชมความสวยงามของสกีรีสอร์ตก็เกินคุ้มแล้วล่ะ ในส่วนของการเดินทางสามารถออกเดินทางจากเมืองซัปโปโรด้วยรถไฟไปลงที่ JR Otaru Chikko(S13) แล้วจะมีรถบัสของทางรีสอร์ทมารอรับ โดยที่พักนั้นมีโรงแรมให้เลือก 2 แห่ง คือ The Kiroro, a Tribute Portfolio Hotel, และ Sheraton Hokkaido Kiroro Resort ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกได้ตามใจได้เลยจ้า

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

รีสอร์ทเปิดให้บริการตลอดทั้งปี

ฤดูหนาวที่สามารถเล่นสกีได้คือช่วง เดือนธันวาคม – มกราคม

คลองโอตารุ Otaru Canel Cruise

โอตารุเป็นเมืองท่าสำคัญของฮอกไกโด จึงมีลำคลองกลางเมืองที่สวยงามมากมาย ดังนั้นอีกหนึ่งกิจกรรมสุดฟินของการเที่ยวฮอกไกโดในหน้าหนาว คือการล่องเรือคลองโอตารุ Otaru Canel Cruise เพื่อชมวิวเมืองอันสวยงามด้วยทัศนียภาพของทิวเขาและอาคารบ้านเรือนที่มีความเก่าแก่ ลำคลองเส้นนี้มีความยาวกว่า 1000 เมตร ประดับประดาด้วยโคมไฟสไตล์วิคตอเรียนสวยงามตลอดเส้นทาง และในช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนกุมภาพันธ์จะมีเทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุ (Otaru Snow Light Path Festival) ที่นักท่องเที่ยวมากมายพากันมาชมความงาม ในส่วนของการเดินทาง สามารถเดินเท้าจากสถานีรถไฟโอตารุ (Otaru Station) มาถึงจุดขายบัตรบริเวณสะพาน Chuo-bashi Bridge ได้เลย

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

เปิดให้บริการทุกวัน

เวลาเปิดทำการ 9.00-21.00 น. (เรือออกทุกๆ 30 นาที)

การเช้าชม

ค่าเข้าชมกลางวัน ผู้ใหญ่ 1,500 เยน / เด็ก 500 เยน

ค่าเข้าชมกลางคืน ผู้ใหญ่ 1,800 เยน /เด็ก 500 เยน

โรงงานแก้ว Otaru Canalside Glass Factory

มาถึงริมคลองโอตารุแล้ว ทริปเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาวของเรา ต้องไม่พลาดที่จะแวะเยี่ยมชมและหาซื้อของฝากถูกอกถูกใจจากโรงงานเครื่องแก้ว Otaru Canalside Glass Factory อันเลื่องลือ โรงงานนี้ตั้งอยู่ริมคลองโอตารุ สามารถเดินเล่นมาเรื่อยๆ จากศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว ตัวโรงงานมีความโดดเด่นสะดุดตาจากอาคารหอคอยหลังคาเป็นโดม ด้านในเป็นจุดสาธิตการผลิตเครื่องแก้วและจำหน่ายของที่ระลึก ด้านบนจัดเป็นจุดชมวิวเมืองโอตุรุจากมุมสูง เรียกว่ามาจุดเดียวได้ทั้งเช็คอิน ได้ทั้งรูปสวยๆ และได้ของฝากน่ารักๆ ติดมือไปด้วย ฟินกันสองต่อไปเลย

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

โรงงานเปิด-ปิด เวลา 9:30 - 18:30

ช่วงกลางเดือนเมษายน-กลางเดือนตุลาคม ปิด 18:00

การเช้าชม

เข้าชมได้ฟรี

ตึกที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office)

อลังการงานญี่ปุ่นสร้างมากๆ สำหรับอาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office Building) ซึ่งถูกจัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวกึ่งพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ของเมือง อาคารนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร (Sapporo) ภายนอกดูสวยงามอลังการด้วยสวนซากุระด้านหน้า ตัวอาคารเป็นสีอิฐแดงสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก ภายในตกแต่งอย่างหรูหรามีการแสดงสิ่งของสำคัญ ๆ ชิ้นประวัติศาสตร์ของเมืองไว้ให้ชม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทั้งสายทัวร์ญี่ปุ่นแนววัฒนธรรม และสายเซลฟี่ที่มีมุมให้ถ่ายรูปกันฉ่ำใจมาก สำหรับการเดินทาง ออกจากสถานี JR Sapporo ทางออกหมายเลข 10 แล้วเดินเท้านิดหน่อยก็เจอแล้วค่ะ

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

เปิดทำการและให้เข้าชมภายในอาคาร 8:45-18:00

เข้าชมสวนหน้าอาคาร เวลา 7:00-21:00 (ฤดูหนาวเปิด 8:00)

ปิดทำการในเทศกาลปีใหม่

การเช้าชม

ค่าเข้าชมฟรี

หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower)

มาต่อกันที่ หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) แลนมาร์คเก่าแก่ของเมือง ว่ากันว่าใครมาซัปโปโร แล้วไม่มีรูปเซลฟี่กับ Sapporo Clock Tower ก็เหมือนมาไม่ถึงนะคะ ตัวหอนาฬิกาอันนี้เก่าแก่มากสร้างในปี 1878 สมัยพัฒนาซัปโปโร ปัจจุบันก็มีการปรับปรุงจนกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านประวัติศาสตร์ของเมืองและประวัตินาฬิกาในยุคต่างๆ ด้านสถาปัตยกรรมอาคารหลังนี้เป็นอาคารไม้ขนาดใหญ่สีขาวคลาสสิคมากๆ ในช่วงฤดูหนาวก็จะมีหิมะปกคลุมทั่วบริเวณ ได้มุมถ่ายรูปแบบฟินๆ อินฮอกไกโดแน่นอน สำหรับการเดินทางจาก สถานีรถไฟ JR Sapporo Station เดินไปแค่ 10 นาที ก็ถึงแล้วค่ะ

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

เปิดทำการเวลา 8:45-17:10 (เข้าชมก่อน 17:00)

ปิดทำการ ในทุกวันจันทร์ สัปดาห์ที่ 4 ของเดือน

ปิดทำการในเทศกาลปีใหม่ วันที่ 29 ธันวาคม - 3 มกราคม

การเช้าชม

มีค่าเข้าชม 200 เยน / คน

ค่าเข้าชมเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 20 คนขึ้นไป 180 เยน /คน

สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park)

ไปต่อกันที่สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) สวนสวยๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร ใครมาเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ต้องไม่พลาดมาชมเทศกาลหิมะซัปโปโรซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่สวนแห่งนี้ ภายในงานจะมีการจัดแสดงการแกะสลักรูปปั้นน้ำแข็ง และตกแต่งสวนสวยๆด้วยโคมไฟต่างๆมากมาย นอกจากนั้นบริเวณสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) ยังเป็นที่ตั้งของอาคารทีวีทาวเวอร์ซัปโปโร (Sapporo TV Tower) ซึ่งด้านบนมีจุดชมวิวที่ทำให้คุณสามารถมองเห็นทิวทัศของซัปโปโรได้แบบ 360 องศา ยิ่งในช่วงกลางคืนหรือช่วงเทศกาลหิมะยิ่งสนุกและฟินมาก เพราะ Sapporo TV Tower จะมีการประดับประดาด้วยไฟสีสันต่างๆอย่างสวยงาม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องบรรจุไว้ในทริปทัวร์ฮอกไกโดหน้าหนาวเลยล่ะ

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) เปิดทุกวัน /เข้าชมฟรี

เทศกาลหิมะซัปโปโร จัดในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ / เข้าชมได้ฟรี

ทีวีทาวเวอร์ซัปโปโร (Sapporo TV Tower) มีค่าเข้าชม 720 เยน

เดือนเมษายน – กลางตุลาคม เปิดทำการเวลา 9:00-22:00

เดือนตุลาคม – มีนาคม เปิดทำการเวลา 9:30-21:30

บ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ (Noboribetsu Onsen), เมือง Noboribetsu

นี่คือแลนมาร์คสำหรับคนรักออนเซ็น หน้าหนาวทั้งทีจะมีอะไรฟินไปกว่าการได้ทัวร์ฮอกไกโดและนอนแช่ออนเซ็นจากบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ (Noboribetsu Onsen), เมือง Noboribetsu ที่รายล้อมด้วยป่าธรรมชาติและชมวิวเนินเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ บ่อน้ำร้อนของที่นี่มีชื่อเสียงเลื่องลือระดับต้นๆ ของโลก อุดมไปด้วยแร่ธาตุจากธรรมชาติที่แตกต่างกันถึง 11 บ่อ และเนื่องจากเป็นที่เลื่องลือมากถึงคุณค่าของน้ำแร่จากบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ ทำให้การมาท่องเที่ยวเพื่อแช่ออนเซ็นที่นี่เป็นเรื่องสุดแสนจะสะดวก เพราะมีโรงแรมให้บริการมากมาย แต่ละโรงแรมก็มีจุดมัดใจนักท่องเที่ยวเป็นจุดชมวิวจากการแช่ออนเซ็นที่แตกต่างกัน ส่วนใครที่ไม่ได้พักโรงแรมแบบมีออนเซ็นส่วนตัว เมืองโนโบริเบทสึ (Noboribetsu) เค้าก็มีห้องอาบน้ำออนเซ็นแบบสาธารณะไว้บริการแบบได้อารมณ์คนท้องถิ่นจริงๆ เลยล่ะ

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

เวลาทำการโดยส่วนใหญ่จะเปิด 07.00 น – 21.00 น.

การเช้าชม

ค่าบริการออนเซ็นมีหลายระดับตั้งแต่ 700-2,500 เยนขึ้นไป

ล่องเรือชมธารน้ำแข็งเมืองอะบาชิริ (Abashiri Drift Ice), เมือง Abashiri

ที่ของที่สุดสำหรับการเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาวก็ต้องเป็นการล่องเรือชมธารน้ำแข็งเมืองอะบาชิริ (Abashiri Drift Ice) กิจกรรมนี้เป็นการล่องเรือตัดน้ำแข็งขนาดใหญ่เพื่อท่องในทะเลโอค็อตสค์ ซึ่งภูมิอากาศในหน้าหนาวได้ทำให้ทะเลกลายสภาพเป็นทะเลน้ำแข็ง บรรยากาศของการชมวิวทิวทัศน์เราจะได้เห็นทิวเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ แผ่นน้ำที่จับตัวเป็นน้ำแข็งและอาจจะได้เจอสัตว์แปลกตาเช่น อินทรีย์ทะเลสเตลเลอร์ (Steller’s Sea Eagle) หรือแมวน้ำลายจุด (Spotted Seal) ให้อารมณ์ตื่นตาตื่นใจได้ทัวร์ญี่ปุ่นแบบท่องโลกกว้างมากๆ ซึ่งการเดินทางล่องเรือชมธารน้ำแข็งเมืองอะบาชิริ จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ใครที่สนใจต้องเตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม และทำการบ้านสำหรับการดูแลตนเองไปสักหน่อย ในส่วนการเดินทาง เราสามารถจองตั๋วเรือผ่านทางเว็บไซต์ Aurora Sightseeing Boats และขึ้นเรือจาก Aurora Sightseeing Boats ที่ท่าเรืออะบาชิริ (Abashiri Port) เพื่อล่องเรือออกไปในทะเลโอค็อตสค์ได้เลย

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

ช่วงเวลาที่สามารถล่องเรือได้ คือปลายมกราคม – มีนาคม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

ช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์

เวลาเปิดให้บริการ เดือนมกราคม 9:00-15:00 (3-4 รอบ)

เวลาเปิดให้บริการ เดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม 9:30-15:30 (3-4 รอบ)

การเช้าชม

มีค่าล่องเรือ 3,300 เยน / คน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo), เมือง Asahiyama

สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า(Asahiyama Zoo) ตั้งอยู่ในเมืองอะซาฮิกาว่า (Asahikawa) เป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงมากๆ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับท็อปฮิตของทัวร์ฮอกไกโด เพราะที่นี่รวบรวมเอาสัตว์พื้นเมืองของฮอกไกโด และสัตว์ที่หาดูได้ยากอย่างหมีขั้วโลก และนกเพนกวิน มาไว้จัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างจุใจ และไฮไลท์เด็ดของทริปเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาวที่ต้องจัดมาที่นี่ เพราะหน้าหนาวเราจะได้เห็นเจ้าเพนกวินน้อยออกมาเดินเล่นท้าลมหนาวแบบสนุกสนาน และไฮไลท์อีกอย่างก็คงจะเป็น “อุโมงค์แก้วเพนกวิน” ที่ทำให้เราได้ส่องเจ้าพนกวินว่ายน้ำเล่นแบบใกล้ชิดราวกับว่าเล่นน้ำอยู่ด้วยกัน สำหรับการเดินทางถ้ามาด้วยรถไฟ สามารถลงได้ที่สถานี Kitahinode Station แล้วเดินเท้าต่ออีก 20 - 40 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

เวลาทำการ

เมษายน-กลางเดือนตุลาคม 9:30-17:15

ตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน 9:30-16:30

พฤศจิกายน-ต้นเดือนเมษายน 10:30-15:30

วันปิดทำการ: วันที่ 30 ธันวาคม - 1 มกราคม

การเช้าชม

มีค่าเข้าชม 820 เยน / คน

โรงงานช็อกโกแลตและขนมชิโรอิโคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)

โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ(Shiroi Koibito Park) เมืองซัปโปโร (Sapporo) เป็นอีกจุดเช็คอินสุดฮิตที่ใครมาทัวร์ฮอกไกโดก็ต้องแวะมา เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่โรงงานอบขนมหรือร้านขายช็อคโกแลตเท่านั้น แต่เป็นทั้งสวนสนุก พิพิธภัณฑ์ และแหล่งท่องเที่ยวที่อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมต่างๆมากมาย ภายในโรงงานช็อกโกแลตและขนมชิโรอิโคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park) จะแบ่งเป็นส่วนของการจัดแสดงประวัติศาสตร์โรงงาน ส่วนของกิจกรรม เช่น การสาธิตการทำขนม เวิร์คช็อปเล็กๆ ให้นักท่องเที่ยวอบขนมด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังมีสวนสวยๆ ให้แวะถ่ายรูปเช็คอินแบบฟินๆ ได้ด้วย ในฤดูหนาวที่นี่จะสวยมากๆ เพราะสวนจะประดับประดาด้วยไฟ จัดแต่งด้วยตุ๊กตาหิมะ ไปยืน ณ จุดนั้น จะให้อารมณ์เหมือนหลุดเข้าไปในโลกเทพนิยาย และที่ขาดไม่ได้ต้องอย่าลืมซื้อขนมคุกกี้เนยสอดไส้ช็อคโก้ของฝากสุดฮอตติดมือกลับบ้านด้วยนะคะ

- โรงงานช็อกโกแลตและขนมชิโรอิโคอิบิโตะ -

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

เปิดให้บริการทุกวัน ในเวลา 9:00-18:00 (เข้าก่อน 17:00)

การเช้าชม

มีค่าเข้าชม 600 เยน / คน

จุดชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate), เมือง Hakodate

ภูเขาฮาโกดาเตะ(Mount Hakodate) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) ที่นี่ถือว่าเป็นจุดชมวิวระดับ TOP 3 ของการมาทัวร์ญี่ปุ่น เพราะจุดชมวิวแห่งนี้เปิดมุมมองสุดฟินให้เราชมเมืองฮาโกดาเตะที่ขนาบด้วยท้องทะเลจากมุมสูงได้แบบ 360 องศา ยิ่งในฤดูหนาวที่ทั้งเมืองปกคลุมด้วยปุยหิมะสีขาวนวลตายิ่งน่าชมมากที่สุด ใครมีเวลามากพอแนะนำว่ามาถึงจุดชมวิวตรงนี้สักบ่ายแก่ๆ แล้วนั่งจิบกาแฟ ชมพระอาทิตย์ตกดินไปจนพลบค่ำจะคุ้มค่ามาก เพราะด้านบนมีบริการร้านค้า คาเฟ่น่ารักๆให้นั่งชมวิวด้านล่างได้แบบฟินๆ การเดินทางมาก็ไม่ยุ่งยาก จากสถานี Hakodate นั่งรถรางมาลงที่ป้าย Jujigai แล้วเดินต่ออีก 10 นาทีก็จะถึงทางขึ้นกระเช้าไปจุดชมวิวแล้วล่ะค่ะ ส่วนขากลับใครจะนั่งรถบัสกลับลงมาก็ได้ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าและได้ชมวิวในอีกรูปแบบหนึ่งด้วย เป็นไงบ้างคะกับ 14 พิกัดเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาวแบบสุดฟิน เห็นแล้วก็อยากแพ็คกระเป๋าเตรียมอุปกรณ์กันหนาวออกเดินทางกันเลยใช่ไหมล่ะ ใครยังไม่มั่นใจว่าจะออกทริปไปไหนดีในหน้าหนาวนี้ อย่าลืมปักหมุดที่ทัวร์ฮอกไกโดไว้นะคะ

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 - 22.00 น.

การเช้าชม

ค่าบริการกระเช้าเคเบิ้ลคาร์

แบบเที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ 780 เยน / เด็ก 390 เยน

แบบไป - กลับ ผู้ใหญ่ 1,280 เยน /เด็ก 640 เยน