ข้อมูลเที่ยวฟุกุชิมะ รวม 10 กิจกรรมแจ๋มๆที่คุณจะต้องไปลองให้ได้

เดินเล่นเหนือทะเลสาบสีเขียวมรกต (อุระบันได : Urabandai)

เริ่มต้นกันที่ทะเลสาบสีเขียวมรกต (อุระบันได : Urabandai) ที่เป็นแลนมาร์คสำคัญสำหรับการมาเที่ยวฟุคุชิมะ เพราะที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์พิเศษในการเดินเท้าเที่ยวชมทะเลสาบที่เกิดจากการปะทุออกของภูเขาไฟบันไดในปี ในปีค.ศ. 1888 และได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันสวยงานของธรรมชาติ มีเส้นทางเดินป่าและมีกิจกรรมปีนเขาที่สวยงามในทุกฤดูกาล ซึ่งเส้นทางเดินป่าที่นิยมมากที่สุดคือเส้นทางทะเลสาบ 5 สี Goshikinuma Walk(Five Colored Pond Walk) และยังมีจุดปีนเขาสุดฮอตของญี่ปุ่นอีกด้วย ส่วนใครที่อยากมาชมวิวทิวทัศน์สวยๆ ต้องมาในฤดูใบไม้ร่วง เพราะที่นี่มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดฮอตที่สวยงามอลังการมากๆ ส่วนหน้าหนาวที่นี่ก็มีกิจกรรมสกีให้ได้ฟินกันด้วยนะ สำหรับการเดินทางสามารถโดยสารรถบัสประจำทางจาก Inawashiro Station หรือจาก Kitakata Station มาลงที่ใจกลางเมืองฟุคุชิมะ หรือจะเช่ารถยนต์ส่วนตัวขับชมวิวทะเลสาบมาเรื่อยๆก็ฟินไม่น้อย

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

เปิดให้บริการทุกวัน

การเช้าชม

เปิดให้บริการฟรีสำหรับเส้นทางการท่องเที่ยว

เดินชมปราสาทหิมะและอาคารบ้านเมืองสไตล์ย้อนยุค (ไอสึวากามัตสึ : Aizuwakamatsu)

มาเที่ยวฟุคุชิมะทั้งที ต้องไม่พลาดไปเรียนรู้วิถีของซามูไรที่เมืองไอสึวากามัตสึ (Aizuwakamatsu) เมืองนี้เดินทางไปท่องเที่ยวได้สะดวกง่ายดายมากๆ เพราะอยู่ห่างจากโตเกียวไม่ไกล ใช้เวลาเดินทางเพียงชั่วโมงเดียวก็ถึงที่หมายแล้ว กิจกรรมสำคัญที่มาแล้วไม่ควรพลาดก็คือการไปเยี่ยมชมปราสาทซามูไรต่างๆ และชมเมืองในสไตล์ย้อนยุค ทั้งนี้ปราสาทสำคัญที่พลาดไม่ได้คือ ปราสาทสึรุกะ ฐานที่มั่นสุดท้ายของเหล่าซามูไรก่อนจะถูกปราบปราม ที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงความรู้ทางประวัติศาสตร์ของซามูไรและของเมืองไว้มากมาย ตัวปราสาทมีความสวยงามเก่าแก่ ใครที่ชื่นชอบในวิถีซามูไรสามารถใส่ชุดคอสเพลย์ซามูไรถ่ายรูปที่ระลึกได้ด้วย นอกจากนี้ในพื้นที่โดยรอบยังมีสวนสวยๆ และมีโรงน้ำชารินคาคุให้บริการในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ อีกด้วย

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

ประสาทเปิดให้บริการทุกวัน 8:30-17:00(เข้าชมก่อน 16:30)

เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 8.30 – 17.00 (ประตูทางเข้าปิด 16.30)

การเช้าชม

มีค่าเข้าชมปราสาท 410 เยน

ตื่นตาตื่นใจไปกับเทศกาลโซมะโนมาโออิ (Soma Nomaoi) อันยิ่งใหญ่! (เมืองมินามิโซมะ : Minamisoma)

เทศกาลโซมะโนมาโออิ (Soma Nomaoi) แห่งเมืองมินามิโซมะ คือกิจกรรมสำคัญที่เป็นสุดยอดของไฮไลท์ในการเที่ยวฟุคุชิมะ โดย เทศกาลนี้จะจัดในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมค่ะ เป็นการรวมพลของเหล่าซามูไรและทายาทผู้สืบทอดสายเลือดจากซามูไรกว่า 500 คน ในการจัดแสดงการเดินสวนสนามเพื่อแสดงถึงมรดกทางวัฒนธรรมของซามูไรที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ในเทศกาลนี้จะมีกิจกรรมเด่นๆ ก็คือ การแข่งขันขี่ม้าระยะทาง 1,000 เมตรของเหล่าซามูไรที่เรียกกันว่าว่า “คัชชู” และกิจกรรม “ชินกิ โซดาสึเซ็น การแย่งชิงธงเทพเจ้า ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้จะจัดขึ้นพร้อมกันในศาลเจ้าถึง 3 แห่ง และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมโดยสามารถซื้อตั๋วเข้าชมได้เลยในวันงาน ทั้งนี้การเดินทางมาชมงานก็สามารถมาเองได้ง่ายๆ เพราะมีรถบัสให้บริการฟรีจากสถานี JR ฮาราโนะมาจิ ในช่วงเทศกาล

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

กิจกรรมจัดในช่วงเทศกาลเท่านั้น

มีการแสดงในทุกเสาร์ อาทิตย์ และจันทร์ ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ค.

การเช้าชม

มีค่าเข้าชมจำนวน 1,000 เยน

ลิ้มลองเนกิโซบะภายในเมืองโบราณ (โออุจิจูกุ : Ouchi-juku)

เอาใจสายกินกันบ้างจ้า เราไปต่อกันเลยที่โออุจิจูกุ (Ouchi-juku) จังหวัดฟุคุชิมะ เมืองนี้ขึ้นชื่อลือชามากในเรื่องวัฒนธรรมสมัยเอโดะ หากเราไปเที่ยวชมก็จะได้พบบรรยากาศของบ้านโบราณที่หลังคามุงฟางเรียงรายให้ถ่ายรูปกันแบบฟินๆ เพราะที่นี่เป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ มาทัวร์ญี่ปุ่นก็ต้องไม่พลาดมาเช็คอินถ่ายรูปกับบ้านฟางแห่งนี้ และอีกหนึ่งในกิจกรรมเด็ดของดังจากเมืองโออุจิจูกุที่มาเที่ยวฟุคุชิมะแล้วพลาดไม่ได้คือเนกิโซบะหรือโซบะต้นหอม อาหารรสเลิศต้นตำรับจากเมืองโออุจิจูกุ เนกิโซบะนั้นดั้งเดิมมีชื่อว่าทาคาโทโซบะ เป็นโซบะที่จะใช้ต้นหอมคีบแทนตะเกียบ สามารถหาทานได้ทั่วๆ ไปในเมืองโออุจิจูกุ ใครไม่มั่นใจว่าร้านไหนดังร้านไหนเด็ดไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะไม่ว่าจะร้านไหนของให้เป็นเนกิโซบะภายในเมืองโบราณเถอะ อร่อยทุกร้านแน่นอน

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

เปิดให้บริการทุกวัน ในเวลา 09.30 น. – 16.30 น.

การเช้าชม

มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 250 เยน /เด็ก 150 เยน

ลอดถ้ำอาบุคุมะโด (Abukuma-do) ชมศิลปะที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติ! (เมืองทามูระ : Tamura)

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสุดฮอตของการทัวร์ญี่ปุ่น คือการได้มาสำรวจถ้ำสุดอลังการที่ชื่อว่าถ้ำอาบูคุมาโดะ (Abukumado Cave) แห่งเมืองทามูระ ถ้ำแห่งนี้งดงามด้วยศิลปะที่สร้างสรรค์จากธรรมชาติของหินงอกหินย้อยสุดตระการตา เรียกได้ว่าลืมถ้ำกุ๊บๆกิ๊บๆ ที่คุณเคยไปชมมาได้เลย เพราะที่นี่มีธารน้ำใต้ดินที่มีอายุมากกว่า 80 ล้านปี มีหินงอกที่ใหญ่ที่สุดในทีวีเอเชีย (ความสูงถึง 2 เมตร) ภายในถูกตกแต่งประดับประดาด้วยไฟแสงสีเพื่อช่วยขับความงดงามให้ตระการตามากขึ้น ใครที่ชอบกิจกรรมผจญภัยนิดๆ รับรองว่าฟินมากแน่ๆ เพราะภายในถ้ำอาบุคุมะโด (Abukuma-do) มีอะไรมากมายให้คุณได้สำรวจโดยสามารถเลือกแบบกิจกรรมท่องเที่ยวทั่วไป เข้าชมในระยะที่ทางการจัดไว้ 600 เมตรแรก หรือจะอัพเลเวลเลือกเส้นทางสำรวจซึ่งเป็นทางแคบค่อนข้างลำบากเพิ่มมากขึ้นแต่สนุกเร้าใจไปอีกแบบก็สามารถเลือกได้ โดยเพิ่มค่าใช้จ่ายนิดหน่อยเท่านั้น ส่วนใครไม่ถนัดทางผจญภัย เดินชมความงามของหินงอก หินย้อยแล้ว มานั่งชิลๆ ชมหอดูดาว ชมท้องฟ้าจำลอง หรือจะชมสวนลาเวนเดอร์นั่งดื่มกาแฟสวยๆ ที่บริเวณรอบๆ ปากถ้ำก็ฟินไม่น้อยค่ะ

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 8:30-17:00

ต้องเข้าชมก่อนเวลาปิด 40 นาที

การเช้าชม

มีค่าเข้าชม 1,200 เยน / คน

อิ่มอร่อยกับ "คาวามาตะชาโมะ" แบรนด์ไก่ท้องถิ่นรสชาติเข้มข้น (เมืองคาวามาตะ : Kawamata)

"คาวามาตะชาโมะ” ชื่อนี้รับประกันความอร่อย เพราะนี่คือเมนูสุดฟินที่มาเที่ยวฟุคุชิมะแล้วจะพลาดไม่ได้ คาวามาตะชาโมะเป็นชื่อแบรนด์เนื้อไก่ที่ผลิตและจำหน่ายในเมืองคาวามาตะ ความพิเศษของไก่คาวามาตะชาโมะ คือมันถูกเลี้ยงมาเพื่อเป็นอาหารที่ถูกปากคนทั่วญี่ปุ่นจนได้รับการรับรองมาตรฐานจากจังหวัดฟุกุชิมะ ไก่คาวามาตะชาโมะจะมีเนื้อที่แน่น อร่อย เลี้ยงในฟาร์มเปิดแบบไก่อารมณ์ดี ประกอบกับภูมิอากาศของเมืองที่เย็นตลอดปีทำให้เลี้ยงไก่ได้ง่าย ทั้งนี้ สำหรับเมนูแนะนำ ใครมาเที่ยวฟุคุชิมะ มาเมืองคาวามาตะต้องไม่พลาดสั่งเมนูยอดฮิตอย่างชาโมะสุกี้ไก่คาวามาตะชาโมะจากร้านอาหารเอ็นยะมาชิม หรือจากสั่งจากร้านอื่นๆ ก็ไม่ว่ากันแต่ห้ามพลาดนะจะเสียใจแน่นอน

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

เอ็นยะ (Enya) เปิดให้บริการทุกวัน

ค้างคืนที่มรดกทางวัฒนธรรมภายในหมู่บ้านออนเซ็นสไตล์ย้อนยุค! (ฮิกาชิยามะออนเซ็น : Higashiyama Onsen)

มาเที่ยวฟุคุชิมะทั้งที จะพลาดไม่ไปแช่ออนเซ็นในหมู่บ้านท็อปฮิตอย่างฮิกาชิยาม่าออนเซน(Higashiyama Onsen) ได้ยังไง จังหวัดฟุคุชิมะมีแหล่งออนเซนมากถึง 130 แห่ง และฮิกาชิยามะออนเซ็นเป็นหมู่บ้านออนเซ็นหรือหมู่บ้านน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองอาอิซุวาคามัตสึ จังหวัดฟุคุชิมะ มีเรียวกังที่โดดเด่นที่สุดในพื้นที่คือ มูไคทากิเรียวกัง(Mukaitaki Ryokan) ซึ่งงดงามด้วยอาคารไม้สไตล์ดั้งเดิม พื้นที่ออนเซ็นรายล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงามได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ในหมู่บ้านฮิกาชิยาม่าออนเซนจะมีรีสอร์ทต่างๆ ให้บริการมากมาย ส่วนใครไม่ได้พักที่รีสอร์ทก็มีออนเซ็นสาธารณะไว้ให้บริการเช่นกัน

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

เวลาเปิดปิด ขึ้นอยู่กับสถานประกอบการ

มูไคทากิเรียวกัง(Mukaitaki Ryokan) ไม่มีห้องสาธารณะต้องพักที่รีสอร์ทเท่านั้น

ทานราเม็งขึ้นชื่อประจำเมืองแห่งโกดัง (เมืองคิตะคาตะ : Kitakata)

เมืองคิตะคาตะ (Kitakata) หรือเมืองแห่งโกดังเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์การท่องเที่ยวฟุคุชิมะ ซึ่งโกดังหรือคุระเป็นสิ่งปลูกสร้างเพื่อใช้เก็บ ทรัพย์สมบัติต่างๆ ให้ปลอดภัยทั้งจากผู้ร้ายและภัยธรรมชาติ โกดังเหล่านี้ก็สิ่งแสดงถึงฐานะของผู้คนในเมืองอีกด้วย อย่าง คนรวยๆ ก็จะมีโกดังใหญ่ๆ ซึ่งที่เมืองคิตะคาตะมีโกดังสวยงามมากมายให้เที่ยวชม ทั้งแบบดั้งเดิมและแบบที่ดัดแปลงเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ต่างๆ นอกจากเที่ยวชมโกดังแล้วก็ต้องมาไม่พลาดมาลองทานคิตะคาตะราเม็งซึ่งเป็นราเม็งที่ขึ้นชื่อที่สุดของญี่ปุ่น เพราะมีตาน้ำบริสุทธิ์ที่ใช้ทำเครื่องปรุงอาหารเช่น ซอส โชยุต่างๆได้ดี ราเม็งที่นี่ก็จะมีราเม็งที่ใช้น้ำจากตาน้ำบริสุทธิ์อีกด้วย โดยจะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์คือน้ำซุปใสใสหอมๆ หาทานได้ง่ายค่ะเพราะเป็นอาหารท้องถิ่นมีร้านเปิดขายตั้งแต่เช้ายันดึกเลยทีเดียว

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

ร้านราเม็งมีเปิดให้ทานตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงดึก

เที่ยวชมโกดังต้องไปที่ถนนฟุเรไอโดริ (Fureai Dori)

ถนนโอทัตสึกิคุระโดริ (Otazuki Kura Dori)

สถานีคิตะคาตะ (Kitakata)

นั่งรถไฟท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ (รถไฟสายทาดามิ : Tadami Line)

ไปต่อกันที่อีกหนึ่งในกิจกรรมสุดฮอตของทัวร์ญี่ปุ่นคือการได้นั่งรถไฟชมเมืองและสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม เส้นทางรถไฟสายทาคาดามิเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่งดงามไปด้วยธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ขึ้นชื่อว่าเป็นเส้นทางรถไฟสายโรแมนติก แค่ชื่อก็ฟินแล้วใช่ไหมล่ะคะ รถไฟสายนี้วิ่งจากจังหวัดฟุกุชิมะไปจังหวัดนีงะตะ เริ่มจากสถานี Aizu Wakamatsu ไปสิ้นสุดที่สถานี Koide โดยเส้นทางที่จะตัดผ่านภูมิประเทศที่หลากหลายทั้งเทือกเขาทุ่งนาและแม่น้ำ ทำให้มีวิวทัศน์ทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจและโรแมนติกมากๆ จุดชมวิวที่เป็นไฮไลท์ของเส้นทางนี้คือจุดสะพานข้ามแม่น้ำทาดามิที่ยิ่งใหญ่ ในฤดูหนาวจะงดงามไปด้วยป่าไม้ที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ก็สวยงามไม่แพ้กัน ดังนั้นนี่ถือเป็นอีกกิจกรรมสุดฟินที่เราไม่อยากให้คุณพลาดหากมีโอกาสได้มาเที่ยวฟุคุชิมะ

ช่วงเวลาเปิด-ปิด

รถไฟมีค่าโดยสาร ผู้ใหญ่ 7,310 เยน / เด็ก3,655 เยน

ตารางเดินรถออกตามเวลา เริ่มตั้งแต่ 06.00 น.

ลิ้มรสลูกพีชหวานฉ่ำ (เมืองฟุกุชิมะ : Fukushima และอื่นๆ)

ฟุคุชิมะไม่ได้มีดีเฉพาะเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น ยังมีผลไม้อร่อยที่ขึ้นชื่อให้ลิ้มลองกันอีกด้วย ว่าแล้วเราไปเติมความสดชื่นแจกความสดใสด้วยการลิ้มรสลูกพีชหวานฉ่ำจากเมืองฟุคุชิมะกันค่ะ เมืองฟุคุชิมะเป็นถิ่นผลไม้ขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่น และหนึ่งในผลไม้สุดฮอตก็คือลูกพีชที่ปลูกได้เยอะมากเป็นอันดับ 2 ประเทศ แถมยังมีรสหวานฉ่ำสุดฟินเพราะดินน้ำที่นี่อุดมสมบูรณ์ และในบางฤดูกาลมีอากาศร้อนซึ่งความร้อนนั้นช่วยดึงความหวานของผลไม้ออกมาได้ดี และลูกพีชที่ขึ้นชื่อลือชามากก็จะเป็นพีชฮาคุโฮสายพันธุ์ขาว ที่สังเกตได้จากเปลือกบางๆ ด้านนอกสีชมพู ส่วนด้านในจะเป็นเนื้อสีขาว ลูกโตเนื้อนุ่มหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ชื่นใจทีเดียว นอกจากนี้จังหวัดฟุคุชิมะเค้าก็มีกิจกรรมแบบไปเยี่ยมชมสวน เก็บผลไม้ทานเอง สนุกสนานได้บรรยากาศปอีกแบบค่ะ มากไปด้วยกิจกรรมจริงๆ สำหรับการเที่ยวฟุคุชิมะแบบไม่มีเหงา ไม่ว่าจะเป็นทัวร์ญี่ปุ่นสายกิน สายฟิน สายชิล หรือสายแอดเวนเจอร์ จังหวัดฟุคุชิมะถือว่าเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ แถมยังมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีมีอะไรให้ชมในทุกฤดูกาล ใครพร้อมแล้วสำหรับทุกกิจกรรมก็เตรียมแพ็คกระเป๋าเลือกวันจองตั๋วกันได้เลยค่ะ