เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์

09-00-18.00 น.

เราช่วยคุณได้

@taladtour

Travel License : 11/11173

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

รีวิวเที่ยวฮิโรชิม่า 6วัน4คืนกับนกแอร์ สายการบินนกแอร์ชวนคุณไปเที่ยวฮิโรชิม่า ไปแบบประหยัดสุดคุ้ม

รีวิวเที่ยวฮิโรชิม่า 6วัน4คืนกับนกแอร์ สายการบินนกแอร์ชวนคุณไปเที่ยวฮิโรชิม่า ไปแบบประหยัดสุดคุ้ม

01

Apr

ญี่ปุ่น

รีวิวเที่ยวฮิโรชิม่า 6วัน4คืนกับนกแอร์ สายการบินนกแอร์ชวนคุณไปเที่ยวฮิโรชิม่า ไปแบบประหยัดสุดคุ้ม

เที่ยวฮิโรชิม่ากับนกแอร์  นกแอร์ บินฮิโรชิม่า
ฮิโรชิม่าถือว่าเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมไม่น้อยและยังเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ ที่รวบรวมเรื่องราวสำคัญภายในญี่ปุ่นเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นที่มีคนพูดถึงมากที่สุด แบบนี้ก็ยิ่งเชิญชวนให้ต้องลองไปสัมผัสบรรยากาศจริงกันสักครั้ง พร้อมพาร่างไปปะทะลมหนาวแล้วสูดกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์ให้เต็มปอด เชื่อว่าเขียนมาถึงขนาดนี้แล้วต้องมีคนยากไปด้วยแล้วใช่ไหม? ไม่ต้องรอ! เพราะเรามีรีวิวที่จะพาคุณไปสนุกกับทริปเที่ยวฮิโรชิมา กับ ข้อมูลเที่ยวฮิโรชิมา สุดคุ้มที่งานนี้เราจะบินไปกับสายการบินนกแอร์แบบราคาไม่แพงเวอร์ ตั๋วนกแอร์ไปฮิโรชิม่า ราคาประหยัด คุ้มค่าม๊ากมาก แต่ได้ครบจบทุกสิ่งเรื่องการเดินทาง แถมบริการก็ดีเป็นเลิศแบบเกินคาดอีกด้วยนะ

*** เกร็ดความรู้ ***

สำหรับใครที่ชอบเดินทางไปฮิโรชิม่า เราแนะนำตั๋วเครื่องบินไปฮิโรชิม่า เวลาดีที่สุด บริการดีที่สุด เที่ยวบินขาไป DD3302 เวลา 02:30 - 10:00 ( เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง ) เที่ยวบินขากลับ DD3303 เวลา 11:00 - 15:15

การเดินทางวันแรก เหิรฟ้าสู่ เมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ DD3302

การเดินทางวันแรก เหิรฟ้าสู่ เมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ DD3302
เริ่มต้นการเดินทางไปฮิโรชิมา จากสนามบินดอนเมืองกันเลย....แต่เราจะต้องรีบออกกันสักนิด ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะต้องไปเจอมหกรรมรถติดที่ทำเอาหัวเสียได้ โดยภายในวันแรกที่ต้องเดินทางจะต้องไปให้ถึงสนามบิน 23.30 น. การนัดในวันนี้จุดหมายของเราอยู่ที่ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ พอมาถึงจริงก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไปผิดช่องหรือผิดที่แน่นอน  เพราะทางสายการบินนกแอร์จะมีมาสคอตเด็กผู้หญิงใส่ชุดพนักงานนกแอร์สีเหลืองเด่นสุดน่ารัก มายืนถือป้ายต้อนรับไว้รอแล้ว เรียกได้ว่าขึ้นเครื่องไม่ผิดแน่นอน! เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลา 02.30 น.เราจะเริ่มออกเดินทางไปกับสายการบินนกแอร์เพื่อไปสู่ปลายทางของเรานั่นคือ “ฮิโรชิมา” ไปเที่ยวกัน 5 วัน 6 คืน แบบเต็มอิ่ม รอบนี้เราจะไปด้วยเที่ยวบิน นกแอร์ DD3302 ที่เพียงแค่ก้าวขึ้นเครื่องก็สร้างความประทับใจด้วยบรรยากาศสุดโปร่งสบาย ที่นั่งสะอาดสะอ้าน เก็บของแล้วนั่งปุ๊บก็หลับต่อได้แบบสบายๆ ระหว่างการเดินทางยังมีอาหารอร่อยจัดเสิร์ฟให้บนเครื่อง  เรื่องรสชาตินี่ต้องบอกเลยว่าอร่อยกว่าที่คิด! รองท้องก่อนถึงญี่ปุ่นได้ดีเลยทีเดียว เดินทางเหินฟ้าข้ามน้ำ ข้ามทะเล รวมระยะเวลาแล้วประมาณ 7 ชั่วโมงกว่า ด้วยราคาแพ็คเกจของนกแอร์แล้วถือว่าคุ้ม! แถมพอเดินลงจากเครื่องปั๊บก็ประทับใจทันที! ด้วยการถือป้ายต้อนรับของไกด์ทัวร์สาวญี่ปุ่นหน้าตาน่ารัก ทำให้เราไม่ต้องเดินออกจากเกตแบบงงๆ จากนั้นก็เริ่มต้นการท่องเที่ยวกันได้เลย!

สนามบินฮิโรชิม่าเที่ยวเกาะมิยาจิม่า


สนามบินฮิโรชิม่าเที่ยวเกาะมิยาจิม่า
เริ่มต้นการเดินทางจากสนามบินฮิโรชิม่าและไปต่อที่เกาะมิยาจิม่าทันที สถานที่ท่องเที่ยวอันเต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังแห่งศาลเจ้าชื่อดังอย่าง Itsukushima ที่มีความเก่าแก่และคงความขลังแห่งศิลปวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนถูกยกย่องให้เป็นอีกหนึ่งมรดกโลกกันเลยทีเดียว แถมได้มิชลินไกด์ในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกถึง 3 ดาว อันเป็นว่าถ้าใครมาถึงเกาะแห่งนี้ต้องได้ไปศาลเจ้า Itsukushima เพื่อขอพรเรื่องต่างๆ พร้อมถ่ายภาพเก็บความทรงจำไว้ จะได้รู้ว่ามาถึงเกาะมิยาจิม่าแล้วนะ! อีกเรื่องที่นักเดินทางอย่างเราๆ ควรรู้คือเกาะแห่งนี้มีอีกชื่อเรียกแบบภาษาบ้านๆ ว่าเกาะอิทสึคุชิมะ หรือแปลเป็นไทยแบบเก๋ๆ ว่าเกาะเทพเจ้า ถ้าไปแล้วถามหาเกาะมิยาจิม่ากับคนแถวนั้นแล้วเขาทำหน้างง ก็ให้ใช้ชื่อเกาะอิทสึคุชิมะแทน รับรองว่ามีร้องอ๋อ! แน่นอน ถ้าถามว่ามาที่นี่แล้วได้อะไร? ได้วิวสวยแบบริมน้ำที่ผสานกับความเก่าแก่ของสถานที่ ให้กลิ่นอายแห่งความสงบสุข ร่มรื่น และได้ตื่นตาตื่นใจไปกับเสาแดงโทริอิ ที่ปกติแล้วจะตั้งเด่นตระหง่านอยู่ท่ามกลางทะเล แต่เมื่อน้ำลงแล้วกลับปรากฏเป็นทางเดินพาดผ่านเสาที่เราลงไปเดินเล่นและถ่ายรูปได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมีสวนโมมิจิดานิ สวนสวยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มาพร้อมสีสันแห่งพืชพรรณที่จะเป็นไปตามฤดูกาล  ไม่ว่าคุณจะมาหน้าฤดูกาลใดก็ได้ความทรงจำกับรูปธรรมชาติสวยๆ จากที่นี่กลับไปแน่นอน นอกจากนี้ยังมีอีกสารพัดกิจกรรมให้คุณได้ทำอย่างสนุกสนาน เช่น การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของมิยาจิม่า, ขอพรกับวัดไดโชอิน หรือจะขึ้นกระเช้าไปชมวิวธรรมชาติอันสวยงามแบบเพลินๆ ที่  Miyajima Ropeway ได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์และขอพรที่เกาะนี้ รับรองหายเหนื่อยจากการเดินทางมาแบบปลิดทิ้งเลยล่ะ!

เมืองอิวาคุนิ


เมืองอิวาคุนิ
ไปต่อกันที่เมืองอิวาคุนิที่ดังมากในเรื่องของสะพานคินไต เพราะถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมของแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเมืองยามากุจิเลยก็ว่าได้ หนึ่งในนั้น คือ ประสาทอิวาคุนิที่ยังคงความสมบูรณ์แบบและความดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี เรื่องของมนต์เสน่ห์แห่งการท่องเที่ยวของที่นี่ยังคงเป็นเรื่องของธรรมชาติ เพราะถือว่ายังอุดมสมบูรณ์ดี โดยคุณสามารถนั่งกระเช้าเพื่อชมวิวแบบ 180 องศาได้อย่างสะดวก ใช้เวลาของการนั่งกระเช้าจากประสาทที่อยู่เชิงเขาสู่ยอดเขาด้วยเวลาเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น แต่ถ้าอยากจะฟินไปกับบรรยากาศรอบข้างแบบชิลล์ๆ ก็สามารถเดินเท้าขึ้นเขาด้วยทางเดินที่ถูกจัดทำไว้เป็นอย่างดีในเวลาเพียงแค่ 5 นาที นอกจากจะฟินไปกับบรรยากาศของประสาทแล้ว ยังมีจุดชมวิวที่เมื่อคุณไปยืนแล้ว จะสามารถมองเห็นทุกจุดและทุกมุมของเมืองได้ชัดเจน ที่สำคัญคือมองเห็นสะพานคินไตชัดระดับ Full HD กันเลยทีเดียว

แนะนำที่พักโรงแรม Iwakuni Kokusai Hotel พร้อมอาบน้ำแร่ออนเซน

แนะนำที่พักโรงแรม Iwakuni Kokusai Hotel พร้อมอาบน้ำแร่ออนเซน
พักโรงแรม Iwakuni Kokusai Hotel พร้อมอาบน้ำแร่ออนเซน
จบวันด้วยการเข้าพักที่โรงแรม Iwakuni Kokusai Hotel ที่เราจะผ่อนคลายความเหนื่อยล้าไปกับการแช่ตัวภายในบ่อออนเซนของโรงแรมที่ให้ความร้อนกำลังดี พร้อมการรับชมวิวสวยในขณะแช่ออนเซนจากสะพาน  Kintaikyo ที่อยู่ตรงหน้า มีบริการนวดคลายเส้นที่ตึงเพราะการเดินทางท่องเที่ยวมาตลอดทั้งวัน ห้องพักสะอาด ราคากันเอง แถม WiFi ฟรีในพื้นที่ส่วนกลางและการเดินทางก็แสนจะสะดวก ถ้าใครได้มาที่ฮิโรชิม่าก็สามารถเข้ามาพักที่นี่ได้ การันตีว่าสบายใจ สบายกระเป๋าแน่นอน

การเดินทางวันที่สาม ชมความงามสะพานคิไตเคียว


สะพานคิไตเคียว
เริ่มต้นวันที่ 3 แบบสุดชิลล์ด้วยการไปชมวิวสะพานคินไตเคียว สะพานไม้เก่าแก่สุดอลังการที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดและติด 1 ใน 3 อันดับสะพานไม้สวยสุดคลาสสิคของญี่ปุ่น โดยสะพานนี้จะมีรูปแบบการสร้างสุดแปลกด้วยการทำโค้งไว้ถึง 5 โค้ง  ความกว้างของสะพานประมาณ 5 เมตร และความยาวอีก 193.3 เมตร ด้วยความแปลกตาในการสร้างและอายุสะพานที่มีมาอย่างยาวนาน จึงทำให้สะพานแห่งนี้ถูกยกให้เป็นมรดกวัฒนธรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น อีกหนึ่งความโดดเด่นของสะพานนี้ คือ บรรยากาศรอบข้างจะปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล จึงทำให้สามารถมายืนรับชมวิวได้ 4 ฤดูกาล และไม่ว่าคุณจะมาช่วงฤดูกาลใดก็แล้วแต่ เพียงแค่มายืนชมวิวตรงจุดนี้รับรองว่าคุณจะได้ภาพสวยระดับหลักล้านกลับไปแน่นอน

เล่นสกีฮิโรชิม่าที่ Megahira Ski Resort

เล่นสกีฮิโรชิม่าที่  Megahira Ski Resort


ชมวิวสวยระดับหลักล้านกับสะพานวัฒนธรรมระดับประเทศกันไปแล้ว มาต่อที่สกีรีสอร์ทสัมผัสอากาศหนาวเย็นแบบสุดขั้วกับกีฬาหน้าหนาวที่ไม่เล่นก็คงมาไม่ถึงอย่างสกีน้ำแข็ง โดยเราจะมากันที่ Megahira Ski Resort แหล่งเล่นสกีที่จะพาคุณไปพบกับประสบการณ์ใหม่ของการเล่นสกีที่สนุกถูกใจคนรักกีฬาหน้าหนาว ทั้งยังมีกิจกรรมให้คุณได้สนุกไปตลอดทั้งวัน ถ้าคุณเป็นสายรักหิมะและสกีที่นี่จะจัดเต็มลานสกีให้คุณได้ลื่นไถลไปอย่างหนำใจ บอกเลยว่าแม้อากาศจะหนาวจนแข็งแบบติดลบก็สู้ไฟในใจคนอยากเล่นสกีอย่างเราไม่ได้! แบบนี้ก็ต้องลุยให้สุด!

สวนโคราคุเอน (Korakuen) และปราสาทโอคะยะมะ


สวนโคราคุเอน (Korakuen) และปราสาทโอคะยะมะ
แต่มาทั้งทีก็ต้องไปต่อ เพื่อให้การมาครั้งนี้คุ้มค่ามากที่สุที่สวนโคราคุเอนที่ถูกยกย่องให้เป็นสวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นจนติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศกันเลยทีเดียว ทั้งยังได้รางวัลมิชลินกรีนไกด์แบบนี้เราต้องไม่พลาด! ภายในสวนแห่งนี้จะมีการตกแต่งในรูปแบบของ Okayama Korakuen Garden ที่เป็นการสื่อให้เห็นถึงอำนาจแห่งความเป็นซามูไรที่เคยปกครองประเทศมาก่อน เรื่องของความสวยงามภายในสวนนี้จึงถือว่ามาแบบจัดเต็มมาก โดยมีทั้งสวน, บ่อน้ำขนาดใหญ่ และการตกแต่ง พร้อมไปด้วยสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่ทำให้เราสัมผัสถึงบรรยากาศของช่วงความเป็นซามูไรได้อย่างดี เมื่อมาสู่ยุคใหม่สวนแห่งนี้อุดมไปด้วยเวทีละคร, บ่อน้ำ และทิวทัศน์ของเนินเขา ต้นไม้กับไร่ชาที่ถือว่าเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจกับเป็นแหล่งสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ  นอกจากนี้ถ้าคุณมาทันช่วงเทศกาล Genso Teien ที่จะจัดในช่วงหน้าร้อนและฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น คุณจะได้เห็นแสงแบบไลท์อัพกับแสงเทียนที่ถูกจัดทำขึ้น เพื่อให้สถานที่แห่งนี้มีความงดงามราวกับภาพวาดเลยทีเดียว ซึ่งเทศกาล Genso Teien นั้นแปลเป็นไทยว่า “สวนแห่งความฝันในยามค่ำคิน” ได้ยินชื่อแค่นี้ก็อยากจะไปสัมผัสให้ถึงที่เลยทีเดียว
เพลิดเพลินกับสวนสวยแล้วมาต่อกันที่ปราสาทโอคะ ยะมะ ปราสาทขนาดใหญ่ที่ใช้เวลาสร้างมานานกว่า 8 ปี แต่ด้วยความที่ถูกทำลายเป็นบางส่วนในช่วงของสงครามจึงเกิดการบูรณะใหม่อยู่เรื่อยๆ และกลายเป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของทางญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมชมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ U-jo หรือปราสาทอีกาที่มีการทำสีของปราสาทเป็นสีดำทั้งหมด และมีความสวยงามของศิลปะญี่ปุ่นผสมผสาน จึงทำให้ปราสาทแห่งนี้โดดเด่นสุดๆ  ทั้งยังพาคุณเข้าไปสัมผัสการปกครองในช่วงยุคก่อนและวิถีของความเป็นนักรบโบราณ รวมไปถึงพาหนะต่างๆ ที่เคยใช้มาก่อน ดังนั้นคุณจึงสามารถเข้ามาสัมผัสความเป็นชนชั้นสูงของชาวญี่ปุ่นในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี

แนะนำที่พักโรงแรม ANA CROWNE PLAZA OKAYAMA

แนะนำที่พักโรงแรม ANA CROWNE PLAZA OKAYAMA
เที่ยวมาทั้งวัน ลุยทั้งหิมะ ลุยทั้งดินแดนแห่งแสงตะวัน คงต้องขอจบวันที่ ANA CROWNE PLAZA OKAYAMA โรงแรมระดับ 4 ดาว ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม เรียบหรู และดูสะอาดสะอ้านด้วยสไตล์โมเดิร์น มีห้องพักให้เลือกหลายไซส์ ไม่ว่าจะเป็นไซส์เตียงเดี่ยวห้องใหญ่, ไซส์เตียงคู่ห้องใหญ่ หรือไซส์เตียงเดี่ยวห้องเล็กสำหรับนอนคนเดียว เพื่อให้คุณได้เลือกอย่างเหมาะสมต่องบประมาณ แต่ไม่ว่าจะเลือกไซส์ห้องแบบไหน สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือความสวยงามของวิวนอกหน้าต่างที่รับแสงแดดอ่อนๆ ให้รู้สึกได้อบอุ่นตลอดทั้งวันแบบไม่มีตึกใดๆ มาบดบัง พร้อมวิวสวยที่มองเห็นเมืองในมุมสูงได้ชัดเจน มีบริการดีเป็นเลิศ จึงไม่น่าแปลกใจที่ ANA CROWNE PLAZA OKAYAMA จะติดอันดับโรงแรมที่ดีที่สุดของเมือง
- ANA CROWNE PLAZA OKAYAMA -

การเดินทางวันที่สี่เยือนเมืองเก่าคุราชิกิ

การเดินทางวันที่สี่เยือนเมืองเก่าคุราชิกิ
เมืองเก่าคุราชิกิ
พักจนหายเหนื่อยแล้วเรามาต่อกันวันที่ 4 เริ่มต้นความฟินด้วยเมืองเก่าคุราชิกิ เมืองท่องเที่ยวสุดคลาสสิกที่คุณจะต้องได้มาล่องเรือเพื่อชมรอบเมืองกันสักครั้ง จะอินกันมากขึ้นถ้าคุณได้สวมใส่ชุดกิโมโนหรือยูกาตะเพื่อขึ้นเรือและรับชมความสวยงามของรอบเมืองไปพร้อมกัน ซึ่งเมืองแห่งนี้ยังคงมนต์ขลังแห่งความเป็นยุคเอโดะไว้ได้เป็นอย่างดี ความเด่นของที่นี่คือการผสมผสานสถาปัตยกรรมที่มีทั้งของยุโรปและของญี่ปุ่นที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน จนทางรัฐบาลญี่ปุ่นต้องยอมทุ่มงบประมาณเพื่อรักษาความดั้งเดิมของที่นี่เอาไว้ นอกจากการล่องเรือแล้วยังมีบริการรถลากโบราณเพื่อเที่ยวชมเมืองอีกด้วย แล้วมาต่อกันที่ Bikan Historical Area ที่มีสะพานหินแบบโบราณที่ยังคงใช้งานได้ มาพร้อมบรรยากาศของที่อยู่อาศัย ร้านค้า และร้านต่างๆ ภายในเมืองที่เป็นรูปแบบดั้งเดิมของเอโดะทั้งหมด ทั้งยังมีสินค้าและอาหารขายจริงๆ ภายในร้านอีกด้วย เมื่อจบทริปเยี่ยมชมเมืองโบราณแล้วต้องไปต่อที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอฮาระ ที่คงศิลปะความเป็นอิมเพรสชันนิสม์ของศิลปินชื่อดังเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน ใครเป็นสายศิลปะต้องไม่พลาดที่นี่! นอกจากนี้ยังมีแหล่งช้อปปิ้งสุดเก๋ให้คุณได้เลือกซื้อของขวัญ ของฝากกลับบ้านอีกด้วย

เมืองฮิโรชิม่า ช้อปปิ้งถนนคนเดินฮอนโดริ


เมืองฮิโรชิม่า ช้อปปิ้งถนนคนเดินฮอนโดริ
เยี่ยมชมเมืองเก่าแก่เสร็จแล้ว มาช้อปปิ้งกันต่อรัวๆ ไม่มีเหนื่อยที่ถนนคนเดินฮอนโดริ ที่จะมีร้านค้าเรียงรายตามริมถนนฮอนโดริทางทิศใต้ของเมืองฮิโรชิม่า ศูนย์รวมทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และร้านแฟชั่นที่จะทำให้คุณได้ช้อปจนเพลิน  นอกจากนี้ยังมีร้านของฝากแบบสุดเก๋ให้คุณได้เลือกซื้อกันอย่างเต็มที่ ที่นี่ถือว่าจุดช้อปปิ้งสำคัญของเมือง เพราะทุกวันจะมีคนมาเดินกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ถนนคนเดินแห่งนี้มีชีวิตชีวาและคึกคักตลอดเวลา หลังจากช้อปปิ้งเพลินๆ จนหมดเงินในกระเป๋าไปพอสมควรแล้ว

แนะนำที่พัก ANA CROWNE PLAZA HIROSHIMA

แนะนำที่พัก ANA CROWNE PLAZA HIROSHIMA
ขอกลับไปพักใจและพักกายที่  ANA CROWNE PLAZA HIROSHIMA อีกหนึ่งที่พักยอดนิยมของฮิโรชิม่าที่ให้การตกแต่งแบบเรียบหรู  ก้าวแรกที่เข้าไปสัมผัสได้ถึงความรู้สึกผ่อนคลายและบรรยากาศที่ดีเยี่ยม ในช่วงที่เข้าพัก คุณสามารถไปว่ายน้ำหรือเข้าสโมสรสุขภาพเพื่อฟิตร่างกายเตรียมพร้อมไปเที่ยวต่อในวันรุ่งขึ้น  แต่ถ้าคุณอยากเสริมสวยเพื่อให้การไปเที่ยวมั่นใจขึ้น โรงแรมแห่งนี้ก็มีบริการเสริมสวยจากร้าน Aesthetic Salon ให้ด้วยเช่นกัน  แถมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง  อยากจะสวยตอนตี 5 หรือเวลาไหนก็มาได้เลย! ส่วนอาหารจะมีบริการทั้งอาหารญี่ปุ่นและอาหารจีนจาก 3 ห้องอาหารชื่อดังของทางโรงแรม ที่สำคัญคืองานบริการที่นี่ดีเลิศมาก มาพักแล้วประทับใจแบบสุดๆ กันไปเลย!

เทศกาลประดับไฟ Hiroshima Dreamination


เทศกาลประดับไฟ Hiroshima Dreamination
ขอไปชมแสงสีแห่งงานเทศกาลไฟ Hiroshima Dreamination ที่ถูกจัดขึ้นอย่างสุดอลังการ ตรงช่วงถนนแห่งสันติภาพหรือเฮวะโอโดริ ถือว่าเป็นจุดแสดงสัญลักษณ์ของเมืองฮิโรชิม่า โดยภายในงานจะมีการจัดแสงไฟสวยงามให้กลายเป็นรูปร่างต่างๆ ที่มีความโดดเด่นและไม่เหมือนใคร ถือว่าเป็นงานเทศกาลแสงไฟที่เด่นที่สุดภายในเมืองฮิโรชิม่า เพราะมีการนำแสง illumination มาตกแต่งให้กลายเป็นภาพจินตนาการต่างๆ ของกลุ่มผู้ที่ตกแต่งสถานที่ ให้ความสวยงามแบบระยิบระยับและให้ความงดงามไปตลอดทั้งแนวถนน เรียกได้ว่าเดินไปไม่ต้องกลัวมืดมน เพราะนอกจากจะมีแสงไฟส่องสว่างตลอดทางแล้ว ยังเป็นแสงไฟที่สวยงามเกินจินตนาการและอลังการเป็นอย่างมาก ที่สำคัญคือในแต่ละปีธีมของการตกแต่งจะไม่เหมือนกัน อย่างในปีนี้เราได้พบกับธีมของปราสาท เจ้าหญิง และเทพนิยายที่ต้องบอกว่าถ่ายรูปกันแบบรัวๆ เลยทีเดียว

การเดินทางวันที่ห้าเยือน ปราสาทฮิโรชิม่า

การเดินทางวันที่ห้าเยือน ปราสาทฮิโรชิม่า
เยือนปราสาทฮิโรชิม่า
หลังจากพักผ่อนแบบสบายใจกันไปแล้ว มาเที่ยวในวันสุดท้ายด้วยการเริ่มต้นจากปราสาทฮิโรชิม่า ที่ความโด่งดังไม่ได้อยู่เพียงประสาทหรือสถาปัตยกรรมดั้งเดิมเท่านั้น แต่กลับเป็นบ่อปลาคราฟโบราณขนาดใหญ่ของปราสาทที่มีปลาคราฟหลากสายพันธุ์ว่ายวนเวียนภายในบ่อเป็นจำนวนมาก นอกจากปริมาณปลาจะมากแล้วอายุของบ่อก็เก่าแก่พอกับตัวประสาทเลยทีเดียว ด้วยจุดเด่นนี้คนญี่ปุ่นจึงตั้งฉายาให้ปราสาทแห่งนี้ว่าปราสาทปลาคราฟ ส่วนนักท่องเที่ยวที่มาก็มักจะนิยมไปเล่นกับปลาและถ่ายรูปปลากันเป็นจำนวนมาก สำหรับการเข้าเยี่ยมชมตัวปราสาทนั้นอาจจะต้องดูรายละเอียดก่อนไปกันเล็กน้อย เพราะจะมีช่วงเวลาที่ถูกระบุไว้อย่างชัดเจนในแต่ละเดือน เพื่อให้ทางปราสาทได้จัดการเรื่องการดูแล การซ่อมบำรุง ซึ่งการปรับเปลี่ยนเวลานั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล เช่น ช่วงเดือนมีนคมไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 9.00-18.00 น. แต่ถ้าเป็นช่วงเดือนธันวาคมจนถึงเดือนกุมภาพันธ์จะเปิดให้บริการช่วงเวลาตั้งแต่ 9.00-17.00 น. นอกจากนี้วันหยุดทำการก็จะต่างกันออกไปในแต่ละเดือนอีกด้วย ดังนั้นก่อนไปเที่ยวควรเช็คตารางการเปิด-ปิดให้ดี

อะตอมมิกบอมบ์โดม สวนสันติภาพฮิโรชิม่า พิพิธภัณฑ์สันติภาพฮิโรชิม่า


อะตอมมิกบอมบ์โดมฮิโรชิม่า  สวนสันติภาพฮิโรชิม่า และ พิพิธภัณฑ์สันติภาพฮิโรชิม่า
เมื่อเข้าสู่เมืองฮิโรชิม่า ควรต้องไปเยือนโดมปรมาณูหรืออะตอมมิกบอมบ์โดม เพื่อถ่ายภาพและกระตุ้นความทรงจำของช่วงสงครามโลกสักครั้ง แต่ใช่ว่ามาแล้วจะมานั่งเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น เพราะที่นี่สร้างขึ้นเพื่อให้ตระหนักถึงสันติภาพและเก็บรักษาประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองเอาไว้ได้เป็นอย่างดีและกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จะทำให้เราได้เรียนรู้ความเป็นฮิโรชิม่าในอดีตมากขึ้น ต่อจากนี้ก็ต้องไปที่สวนสันติภาพฮิโรชิม่า เติมเต็มอารมณ์แห่งประวัติศาสตร์ด้วยอนุสรณ์แห่งสันติภาพ เพื่อเป็นการทำให้เห็นถึงพิษภัยต่อการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ พร้อมการเป็นสวนสาธารณะของเมืองที่มีทั้งพิพิธภัณฑ์,  A-Bomb Dome Hiroshima และกลุ่มอาคารที่ยังคงเหลือรอดอยู่ในช่วงที่โดนระเบิด เพื่อให้คนที่มาเยี่ยมชมได้รับความรู้และสัมผัสบรรยากาศจริงกันให้มากที่สุด

สนุกกับช้อปปิ้งที่เอ้าเลท ฮิโรชิม่า The Outlets Hiroshima


จบจาการเยี่ยมสถานที่ประวิติศาสตร์และการรับบรรยากาศแห่งสันติภาพเรียบร้อยแล้ว มาต่อด้วยการช้อปปิ้งเพลินๆก่อนกลับบ้านที่ เอ้าเลท ฮิโรชิม่า The Outlets Hiroshima งานนี้ถ้าไปช้อปที่แรกกระเป๋ายังเบาไม่พอมาต่อที่นี่กันเลยจ้ะ! เพราะเต็มไปด้วยของกิน, เครื่องดื่ม, ของฝาก และความบันเทิงแบบจัดเต็ม ถือว่าเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ของทางฮิโรชิม่าที่คนได้มาเที่ยวต้องไม่พลาด โดยเฉพาะเรื่องของความบันเทิงที่มีทั้งสเก็ตน้ำแข็ง, ห้องคาราโอเกะสุดอลังการ, ลานโบลิ่งสุดอินเทรนด์ และโซนแห่งความบันเทิงที่ถูกจัดไว้ให้บริการอย่างครบครันในหนึ่งเดียว เมื่อเดินช้อปจนกระเป๋าเบาหวิว เพลินไปกับความบันเทิงและสนุกไปกับกิจกรรมต่างๆ จนเต็มอิ่มแล้ว คราวนี้ก็ขอกลับไปพักผ่อนร่างเพื่อเตรียมชาร์ตพลังงานกลับบ้านในวันรุ่งขึ้นที่โรงแรมเดิม ANA CROWNE PLAZA HIROSHIMA  อยู่ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!