เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์

09-00-18.00 น.

เราช่วยคุณได้

@taladtour

Travel License : 11/11173

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

รีวิว 10 สถานที่เที่ยวฮอกไกโด สัมผัสประสบการณ์ใหม่บนเกาะเหนือของญี่ปุ่น

รีวิว 10 สถานที่เที่ยวฮอกไกโด สัมผัสประสบการณ์ใหม่บนเกาะเหนือของญี่ปุ่น

02

Apr

ญี่ปุ่น

รีวิว 10 สถานที่เที่ยวฮอกไกโด สัมผัสประสบการณ์ใหม่บนเกาะเหนือของญี่ปุ่น

การไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามแทบทุกมุมของประเทศ และที่สำคัญหากคุณไปทัวร์ญี่ปุ่น สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการได้ไปเยือน ฮอกไกโดจังหวัดสำคัญของญี่ปุ่นที่ใครต่างก็เล่าขานเมื่อได้สัมผัสบรรยากาศ เพราะต้องบอกเลยว่าบรรยากาศที่นั่นเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามสุดๆ ในแทบทุกฤดูกาล มีอากาศเย็นสบายไปจนถึงหนาวจับใจ แถมยังมีแหล่งท่องเที่ยวเยอะมากอย่างที่ต้องบอกเลยว่า ไปครั้งเดียวไม่พอ !  วันนี้เราเลยรวบรวม 10 สถานที่เที่ยวฮอกไกโด ที่สายเที่ยวไม่ควรพลาดมาฝากกันค่ะ


สระอะโออิเคะ (Aoiike Blue Pond), เมืองบิเอะ (Biei)


สระอะโออิเคะ (Aoiike Blue Pond), เมืองบิเอะ (Biei)
สถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโด ที่ไม่ไปไม่ได้เลยก็คือ สระอะโออิเคะ หรือ Aoiike Blue Pond บ่อน้ำสีฟ้าอันลือเลื่องแห่งเมืองบิเอะ ต้องบอกเลยว่าดีงามสมคำร่ำลือมาก ความมหัศจรรย์ของที่นี่คือน้ำมีสีฟ้าต่างจากสระน้ำทั่วไป และยังใสมาก ใสจนสะท้อนต้นไม้กิ่งไม้ที่อยู่ริมน้ำได้ชัดเจน สาเหตุที่น้ำที่นี่เป็นสีฟ้าสดขนาดนี้ก็เพราะว่าในน้ำมี Aluminium hydroxide ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ แล้วสารตัวนี้ก็สะท้อนกับแสงของดวงอาทิตย์นั่นเอง เลยออกมาเป็นสีฟ้าสดใสอย่างที่เห็น อีกทั้งบรรยากาศรอบ ๆ สระก็ห้อมล้อมด้วยต้นไม้ และธรรมชาติ ไปช่วงฤดูไหนก็สวย แต่ถ้าใครอยากไปสัมผัสบรรยากาศแบบชวนฝัน แนะนำว่าไปฤดูหนาว ช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์จะสวยมาก เพราะนอกจากจะเห็นน้ำสีฟ้าใสแล้ว ยังได้เห็นหิมะโอบกอดตามกิ่งไม้ใบไม้ริมน้ำอีกด้วย  

โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen), เมืองซัปโปโร (Sapporo)


โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen), เมืองซัปโปโร (Sapporo)
ไปทัวร์ฮอกไกโดทั้งที จะพลาดเมืองออนเซ็นที่โด่งดังอย่าง โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) ไปได้ยังไง บอกเลยว่าไม่พลาดแน่นอนค่ะ เพราะที่นี่คือสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำร้อน ตั้งอยู่บริเวณ Shikotsu-Toya National Park ที่นั่นจะมีบริการให้นักท่องเที่ยวได้อาบออนเซ็นโดยจะมีทั้งแบบฟรีและแบบเสียค่าบริการ ซึ่งค่าบริการก็จะอยู่ที่ประมาณ 500-1500 เยน และนอกจากออนเซ็นที่เป็นจุดเด่นของที่นี่แล้ว สถานที่แห่งนี้ยังล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามอีกด้วย ยิ่งถ้าใครได้มาช่วงเดือนกันยายน ถึงปลายๆ ตุลาคมที่ใบไม้กำลังผลัดใบ เปลี่ยนสี บอกเลยว่าจะได้บรรยากาศที่มีสีสันและประทับใจมากแน่นอน หรือใครอยากไปพักผ่อนระหว่างเดินทางก็ยิ่งเหมาะเข้าไปอีก นอกจากได้แช่ออนเซ็นฮีลร่ายกายแล้ว ยังมีโรงแรมเรียวกังดีๆ บรรยากาศสวยและร้านอาหารอร่อยๆ มากมายให้เลือกอีกด้วย

จุดชมวิว Mount Moiwa, เมืองซัปโปโร (Sapporo)


จุดชมวิว Mount Moiwa, เมืองซัปโปโร (Sapporo)
อีกหนึ่งสถานที่สวย ๆ ในฮอกไกโด ก็คือจุดชมวิวเขาโมอิวะ (Moiwa) ใจกลางเมืองซัปโปโร เป็นจุดชมวิวที่โด่งดังแห่งหนึ่งในฮอกไกโดเลยก็ว่าได้ มีสัญลักษณ์คือระฆังอธิษฐานที่ตั้งตระหง่านอยู่ พอเราไปยืนบนนั้นเราจะเห็นบรรยากาศเมืองซับโปโรรอบ ๆ ในมุมกว้างของสายตา สัมผัสความกว้างใหญ่ของท้องฟ้าและพื้นดินไปพร้อม ๆ กัน ส่วนใหญ่คนนิยมไปกันตอนกลางคืนค่ะ เพราะจะเห็นแสงสีของเมืองจากมุมบนเขา ได้สัมผัสบรรยากาศเมืองซับโปโรในยามราตรีที่สวยจับใจเลยล่ะค่ะ โดยการเดินทางมายังยอดเขาโมอิวะนี้ ถ้าเราได้นั่งกระเช้าลอยฟ้าซึ่งก็จะมีค่าบริการด้วย ก็จะได้บรรยากาศดีๆ และตื่นเต้นไปในตัว ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งในซัปโปโรที่ต้องเช็กอินให้ได้เลยทีเดียว

Sapporo Beer Museum, เมืองซัปโปโร (Sapporo)


Sapporo Beer Museum, เมืองซัปโปโร (Sapporo)
ฮอกไกโด ได้ถูกกล่าวขานว่าเป็นแห่งแรกที่มีการผลิตเบียร์ในญี่ปุ่น ดังนั้นการมาเยือนฮอกไกโด โดยไม่แวะจิบเบียร์สักนิด และชมเรื่องเล่าของเบียร์สักหน่อยนั้น อาจถือว่ายังมาไม่ถึงฮอกไกโด โดยเฉพาะเบียร์ของเมืองซัปโปโรที่มีชื่อเสียงอย่างมากในญี่ปุ่น ทั้งยังมีประวัติศาสตร์การกลั่นเบียร์ที่เก่าแก่ยาวนานมาตั้งแต่ปี 1877 ด้วยแล้ว ยิ่งน่าสัมผัสอย่างมากขึ้นไปอีก บอกเลยค่ะว่าไม่มีที่ไหนที่จะทำให้เรารู้จักเบียร์ของฮอกไกโดได้ดีไปกว่าพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)  เพราะมิวเซียมแห่งนี้บรรจุเรื่องราวของเบียร์ซับโปโรเอาไว้อย่างละเอียด ตั้งแต่การผลิตครั้งแรก พัฒนาการมาจนถึงปัจจุบัน บรรยากาศของพิพิธภัณฑ์มีการผสมผสานความเก่าแก่ด้วยสีอิฐของอาคาร และการออกแบบที่เก๋มากๆ ชวนให้อยากนั่งจิบเบียร์เย็นๆ ต่อที่สวนเบียร์ใกล้พิพิธภัณฑ์เลยทีเดียว

ทะเลสาบอะกัง(Lake Akan), เมืองกุชิโระ (Kushiro)


ทะเลสาบอะกัง(Lake Akan), เมืองกุชิโระ (Kushiro)
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งที่มหัศจรรย์และสวยงามมากของฮอกไกโด ก็คือ ทะเลสาบอะกัง ตั้งอยู่อุทยานแห่งชาติอะกัง (Akan Mashu National Park) ในตอนเหนือของเมืองกุชิโระ สำหรับทะเลสาบแห่งนี้พอเข้าสู่ฤดูหนาวผืนน้ำในทะเลสาบจะเป็นแผ่นน้ำแข็ง  เป็นทะเลสาบที่น้ำใสมาก           มีต้นไม้ภูเขาห้อมล้อม เมื่อสายตาเราจดจ้องไปกับท้องทะเล เราจะเห็นมุมมองของการอยู่ร่วมกันของธรรมชาติ อย่างลงตัว  ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังเป็นแหล่งของสาหร่ายพันธุ์หายากคือ สาหร่ายมาริโมะ (Marimo) ซึ่งเป็นสาหร่ายสีเขียวที่สามารถก่อตัวกันเป็นวงกลมใหญ่เท่าลูกฟุตบอลได้ในเวลาไม่กี่ศตวรรษ เรียกได้ว่าเป็นพืชที่ สำคัญและยังถูกระบุให้เป็น National Special Natural Monument อีกด้วย และหากใครอยากมาพักผ่อนชมวิวทะเลสาบก็เป็นทางเลือกที่ดีมากค่ะ เพราะที่นี่มีโรงแรมเรียวกังสวยๆ สำหรับนักท่องเที่ยวได้พักผ่อนชมวิวทะเลสาบไปในตัว

คาบสมุทรชิเรโตโกะ (Shiretoko Peninsula)


คาบสมุทรชิเรโตโกะ (Shiretoko Peninsula)
มาต่อกันที่คาบสมุทรชิเรโตโกะ (Shiretoko Peninsula) ที่ได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโกมาตั้งแต่ปี 2005 ถือได้ว่าเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญและสวยงามมากของฮอกไกโด ความฟินสุด ๆ ในการเที่ยวคาบสมุทรชิเรโตโกะก็คือการได้ล่องเรือชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ได้แวะชมน้ำตก พืชพรรณ ชมชีวิตของสัตว์ป่านานาชนิด โดยเฉพาะหมีสีน้ำตาล กวาง และสุนัขจิ้งจอก  นอกจากนี้ยังได้สัมผัสอากาศที่หนาวเย็นสบายเป็นการล่องเรือที่ไม่ร้อน สัมผัสบรรยากาศหนาว ๆ เพราะที่นั่นถือว่ามีความชื้นต่ำ อากาศเลยถ่ายเทดีค่ะ ความพิเศษของคาบสมุทรชิเรโตโกะก็คือเป็นคาบสมุทรที่อยู่ทิศใต้สุดในซีกโลกเหนือ ซึ่งส่งผลให้ทะเลสามารถจับตัวเป็นน้ำแข็งได้นั่นเอง

ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya), เมืองโทยะ (Toya)


ทะเลสาบโทยะ  (Lake Toya), เมืองโทยะ (Toya)
ทะเลสาบโทยะ ตั้งอยู่ที่เมืองโทยะ จังหวัดฮอกไกโด เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่มาก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฮอกไกโดที่ต้องไปให้ได้เลยทีเดียว เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่งดงามที่สุด อบอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งท้องทะเลสาบที่ชวนให้เราตกหลุมรัก บรรยากาศทะเลล้อมรอบด้วยธรรมชาติเนินเขามองเห็นท้องทะเลสาบเป็นวงกลม และสิ่งที่โดดเด่นเตะตาต้องใจมากเลยก็คือ เราจะเห็นเกาะเล็กๆ อยู่กลางทะเลสาบโทยะด้วย ชื่อว่าเกาะนากาจิมะ ชวนให้รู้สึกว่าทะเลสาบแห่งนี้ลึกลับน่าค้นหา มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเวลาล่องเรือชมทะเลสาบ เรือก็จะพามาจอดพักแวะที่เกาะกลางทะเลแห่งนี้ให้เราได้สัมผัสบรรยากาศ เป็นความรู้สึกที่ตื่นตาตื่นใจอย่างบอกไม่ถูก และยิ่งมาช่วงพลบค่ำหรือเช้าๆ ตอนท้องฟ้าระเรื่อด้วยแสงอาทิตย์แล้วละก็ยิ่งทำให้เราได้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติของที่นี่มากเลยล่ะค่ะ

ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi), เมืองโอตารุ (Otaru)


ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi), เมืองโอตารุ (Otaru)
ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi) เป็นถนนการค้าที่น่าสนใจและดึงดูดมาก สำหรับใครที่ไปทัวร์ฮอกไกโด บอกได้คำเดียวว่าอย่าลืมแวะมาเดินชมถนนสายนี้เลยนะคะ เพราะถือเป็นถนนสายสำคัญของฮอกไกโดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอตารุ (Otaru) ถนนสายนี้เต็มไปด้วยตึกอาคารที่สวยตระการตามากในสไตล์ตะวันตก เหตุที่ตึกบนถนนสายนี้มีลักษณะการออกแบบไปทางตะวันตกก็เพราะว่า เมืองโอตารุเคยเติบโตเป็นเมืองท่าในช่วงต้นปี 1900  ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาฮอกไกโดช่วงปลายศตวรรษที่ 18 นั่นเอง ทำให้บริษัท การค้า  ขนส่งหลายแห่งได้เข้ามาสร้างอาคาร สำนักงานต่างๆ มากมาย และต่อมาอาคารหลายหลังก็ถูกดัดแปลงให้เป็น Café ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก รวมถึงพิพิธภัณฑ์ ให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมอย่างเพลิดเพลินในถนนสายนี้ และไฮไลต์อีกอย่างคือที่นี่มีการให้นักท่องเที่ยวได้ลองทำกิจกรรมเวิร์คช็อปเครื่องแก้วท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของโอตารุอีกด้วย 

โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse),เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate)


โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse),เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate)
    นอกจากเราจะพบสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สวยงามในฮอกไกโดแล้ว เรายังสามารถสัมผัสบรรยากาศแบบ “ช็อปปิ้ง ชิม เที่ยว” ได้อย่างเพลินใจที่โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse) เพราะที่นี่เรียกได้ว่าเป็นแหล่งการค้าที่มีของให้ช็อปปิ้งมากมาย มีอาหารอร่อยเยอะ ร้านค้าน่าเข้า และที่สำคัญบรรยากาศดีมากด้วยโกดังอิฐแดงที่เรียงต่อกันสวยงามริมท่าเรือ ซึ่งโกดังเหล่านี้เป็นโกดังที่ได้รับการปรับตกแต่งมาจากโกดังก่ออิฐแดงที่สร้างขึ้นช่วงปี 1909  และนอกจากความโดดเด่นจากโกดังสีอิฐแดงแล้ว ยังมีภูเขาธรรมชาติ มีสายน้ำ ท่าเรือ ให้เราได้มองเพลินๆ ขณะเดินช็อปปิ้งไปด้วย  เป็นอีกสถานที่เที่ยวในฮอกไกโดที่ต้องบอกเลยว่าสามารถพาเราไปเปิดประสบการณ์ใหม่ได้อย่างน่าประทับใจ

ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีโนโบริเบตสึ (Noboribetsu Bear Park) , เมืองโนโบริเบตสึ (Noboribetsu)


ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีโนโบริเบตสึ (Noboribetsu Bear Park) , เมืองโนโบริเบตสึ (Noboribetsu)
    หมีสีน้ำตาลถือว่าเป็นหมีสายพันธุ์สำคัญของเกาะฮอกไกโด ซึ่งเป็นพันธุ์ที่จะพบได้ที่ฮอกไกโดและไซบีเรีย อีกทั้งหมีสีน้ำตาลยังถูกยกย่องจากชาวพื้นเมืองของฮอกไกโดในฐานะพระเจ้าอีกด้วย จึงอาจจะพูดได้ว่าหมีชนิดนี้มีความสำคัญทั้งในเชิงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นและประวัติศาสตร์ความเชื่อที่เกิดขึ้นในฮอกไกโด แต่ด้วยจำนวนที่ลดลงมาก ทำให้มีการอนุรักษ์หมีพันธุ์นี้เป็นอย่างดี โดยศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีโนโบริเบตสึ  (Noboribetsu Bear Park) ซึ่งตั้งอยู่ยอดเขาโนโบริเบ็ตสึมีบรรยากาศต้นไม้ล้อมรอบ และภายในพื้นที่อนุรักษ์ทางศูนย์อนุรักษ์ก็จัดบรรยากาศให้เข้ากับวิถีชีวิตของหมีสีน้ำตาลจำนวนราวร้อยตัวให้อยู่ได้อย่างมีความสุข สำหรับใครมาทัวร์ฮอกไกโดก็ไม่ควรพลาดที่จะไปทำความรู้จักเจ้าถิ่นหมีสีน้ำตาลเหล่านี้  เพราะเป็นหมีสีน้ำตาลที่สวย น่ารัก หายาก แถมยังมีเรื่องราวมากมายที่น่าสนใจเกี่ยวกับพวกเขาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้อีกด้วย