แนะนำที่เที่ยวซูริค (Zurich) เมืองใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์

เนินเขาสูงใจกลางเมืองที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนานมาตั้งแต่ในสมัยโรมัน เนินเขาลินเดนฮอฟแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นแหล่งมรดกแห่งชาติของเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นเหนือย่าน Lindenhof ในเขต 1 (Altstadt) ของเมืองซูริค ที่นี่เคยเป็นทั้งที่ตั้งของป้อมปราการโรมันในช่วงศตวรรษที่ 4 และปราสาทในยุคกลางช่วงศตวรรษที่ 9 ในปัจจุบันสถานที่แห่งนี้กลายมาเป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางเมือง เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของขาวเมืองซีริก พักผ่อน ปิกนิค จุดนัดพบ และจุดชมวิวยอดนิยมที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำลิมมัต (Limmat) และวิวทิวทัศน์อันกว้างไกลของตัวเมืองซูริค เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนซูริคกันเลยล่ะค่ะ 

ทะเลสาบซูริคได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่มักจะปรากฏอยู่ในแพ็คเกจทัวร์สวิตเซอร์แลนด์กันอยู่เสมอ ๆ เลยก็ว่าได้ ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซูริคซึ่งรายล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันแสนงดงาม ในวันที่อากาศดี ๆ อาจจะได้เห็นเทือกเขาแอลป์ตั้งตระหง่านอยู่ไกล ๆ กลายเป็นฉากที่งดงามเหมือนเราได้เข้าอยู่ในโปสการ์ดกันเลยทีเดียวค่ะ นอกจากดื่มด่ำกับวิวสวย ๆ ของทะเลสาบซูริคแล้ว ยังสามารถเดินเล่นริมทะเลสาบไปตามถนน และทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่นล่องเรือในทะเลสาบ เช่าเรือพาย ปิกนิกริมทะเลสาบ รวมไปถึงถ่ายรูปวิวทะเลสาบและเทือกเขาแอลป์กันได้

ย่าน Altstadt หรือเมืองเก่าของซูริค ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวาของเมืองซูริคกันเลยค่ะ ย่านนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบยุโรปดั้งเดิมด้วยตึกรามบ้านช่องและอาคารเก่าแก่จากช่วงศตวรรษที่ 19 ที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ มีซอยเล็กซอยน้อยเป็นถนนหินกรวดคดเคี้ยวที่เต็มไปด้วยคาเฟ่สวย ๆ ร้านค้า ร้านอาหาร หอศิลป์ และสถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่สำคัญในเมืองซูริคอีกหลายแห่งที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งการเดินเที่ยวในย่านเมืองเก่าแห่งนี้ ทำให้เรารู้สึกได้เหมือนกับย้อนเวลากลับไปยังยุคกลาง แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ความคึกคัก และสีสันแบบเมืองใหญ่สมัยใหม่ได้อย่างลงตัว

หนึ่งในโบสถ์ที่โด่งดังที่สุดของเมืองซูริค และถือได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญที่ต้องมาเยือนเมื่อมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์กันเลยค่ะ โบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 900 ปีที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 12 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ (Romanesque) ที่มีผนังหินสีอ่อน เสาโค้งสูง และโครงสร้างที่เรียบง่ายซึ่งขับเน้นให้แสงธรรมชาติลอดผ่านหน้าต่างกระจกสีที่งดงาม โบสถ์แห่งนี้มีบทบาทสำคัญอย่างมากในช่วงการปฏิรูปศาสนาของสวิตเซอร์แลนด์ในศตวรรษที่ 16 โดดเด่นด้วยหอคอยคู่ (Twin Towers) อันสง่างามที่สามารถมองเห็นได้จากหลาย ๆ มุมของเมือง มีบันไดกว่า 180 ขั้นที่ให้เราขึ้นไปชมวิวแบบพาโนราอันแสนงดงามของเมืองซูริคด้านบนได้

ที่นี่เป็นสวนสัตว์ชั้นนำของยุโรปซึ่งถือได้ว่าเป็นศูนย์อนุรักษ์สัตว์ที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งในโลก เพราะภายในสวนสัตว์แห่งนี้จะเน้นการจำลองระบบนิเวศธรรมชาติ เพื่อให้สัตว์สามารถอยู่ได้ใกล้เคียงกับถิ่นกำเนิดหรือสภาพแวดล้อมดั้งเดิมของมันมากที่สุด ด้วยเนื้อที่กว่า 27 เฮกตาร์ และสัตว์มากกว่า 400 สายพันธุ์ ทำให้สวนสัตว์ซูริคเปรียบเสมือนโลกอีกใบหนึ่งที่รวบรวมธรรมชาติและสัตว์ป่าจากทั่วโลกมาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นป่าฝนมาดากัสการ์ ป่าเมืองร้อนของไทย โซนจำลองทุ่งหญ้าในออสเตรเลีย ที่อยู่อาศัยของเพนกวินในสภาพอากาศหนาวเย็น และเรือนกระจกสำหรับสัตว์กลางคืน เป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

จุดชมวิวธรรมชาติซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซูริค ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ระเบียงของซูริค" ด้วยความสูง 871 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้สามารถมองวิวทิวทัศน์ของเมืองซูริคที่ตั้งอยู่ริมน้ำ ทะเลสาบซูริคสีฟ้าสดใส และเทือกเขาแอลป์อันยิ่งใหญ่ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา และยังมีความงดงามแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดู ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี บนภูเขามีหอคอยเหล็กเป็นจุดชมวิวบนยอดเขาที่สามารถปีนขึ้นไปชมวิวแบบ 360 องศาได้เต็มตา เส้นทางเดินป่าสั้นๆที่เชื่อมจาก Uetliberg ไปถึง Felsenegg ระยะทางประมาณ 2–2.5 ชั่วโมง และยังเป็นหนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของซูริคอีกด้วย

โบสถ์แห่งนี้เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่และโดดเด่นที่สุดของซูริค มีอายุยาวนานมานับพันปี โดยถูกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 9 และเคยเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและอำนาจทางการเมืองของซูริคในช่วงยุคกลาง โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องของหน้าต่างกระจกสี (Stained Glass Windows) อันแสนงดงามที่ถูกสร้างขึ้นโดยศิลปินระดับโลกอย่าง Marc Chagall และ Augusto Giacometti และโครงสร้างรูปทรงโค้งมนแบบโรมันผสมโกธิคที่เรียบง่ายสง่างาม หากมาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์กันที่โบสถ์แห่งนี้แนะนำให้มาในช่วงเช้าถึงบ่ายแก่ ๆ เพราะแสงธรรมชาติจะส่องผ่านกระจกสีที่บอกเลยว่าสวยงามเป็นอย่างยิ่

โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Church) เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองซูริค และเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมโรมันผสมโกธิคที่เรียบง่ายแต่สง่างาม ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า Altstadt บนเนินเขาเล็ก ๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของป้อมโรมันในอดีต ความโดดเด่นของโบสถ์แห่งนี้คือหอระฆังที่มีหน้าปัดนาฬิกาใหญ่ที่สุดในยุโรป ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่  8.7 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นหน้าปัดนาฬิกาได้จากทุกที่ในเมือง ภายในหอระฆังมีระฆังขนาดใหญ่ที่หนักถึงกว่า 6 ตัน ซึ่งใหญ่ที่สุดในซูริคและยังคงใช้ตีเป็นสัญญาณบอกเวลามาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) เพื่อนำเสนอประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลก และเรื่องราวการเติบโตของกีฬาฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งให้คุณได้สัมผัสกับถ้วยฟุตบอลโลกของจริง และตื่นตาตื่นใจไปกับเรื่องราวของการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ขับเคี่ยวกันมาตั้งแต่ปี 1930 จนถึงปัจจุบัน มีโซน Women’s World Cup ที่นำเสนอเรื่องราวของฟุตบอลโลกหญิง นอกจากนี้ยังมีสนาม Mini Pitch ในอาคาร ซึ่งเป็นสนามขนาดเล็กที่เปิดให้ผู้เข้าชมได้ลงไปเล่นฟุตบอลได้จริง ๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเหมาะสำหรับเด็ก ๆ และผู้ที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างยิ่ง

คนท้องถิ่นเรียกที่นี่ว่า "Opernhaus Zürich" เป็นโรงโอเปร่าและโรงละครที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป และถือได้ว่าเป็นหัวใจทางวัฒนธรรมของเมืองซูริคมานานกว่า 100 ปี ด้วยอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิคที่มีความหรูหรางดงาม ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปสู่ในช่วงยุคทองของศิลปะการแสดงกันเลยค่ะ ซึ่งที่นี่ก็จะมีการจัดแสดงทั้งโอเปร่า บัลเล่ต์ และคอนเสิร์ตคุณภาพสูงตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีผลงานการแสดงของศิลปินระดับโลกและศิลปินรุ่นใหม่กันอย่างต่อเนื่อง และในช่วงหน้าร้อนของทุกปี ที่นี่จะมีเทศกาล Opernhaus Festspiele ที่จะรวบรวมเอาการแสดงระดับไฮไลท์มาไว้ในช่วงเวลาเดียวกันทั้ง โอเปร่า บัลเลต์ และคอนเสิร์ตกลางแจ้ง บอกเลยว่าไม่ควรพลาด

ต้องบอกว่าหากมาเที่ยวซูริคแล้วไม่ได้มาที่ถนนบานโฮฟซตราเซอร์ (Bahnhofstrasse) ก็คงเหมือนมาไม่ถึง เพราะถนนแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเมืองที่เชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟหลัก Zurich HB กับ จัตุรัส Burkliplatz ริมทะเลสาบซูริค และได้รับการขนานนามว่าเป็น "หนึ่งในถนนช้อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก" ด้วยร้านค้าแบรนด์เนมหรูระดับโลกที่เรียงรายกันเต็มสองข้างทาง รวมไปถึงร้านนาฬิกาหรูอย่าง Rolex, Patek Philippe และ Omega นอกจากนี้ก็ยังมีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าเสื้อผ้าแฟชั่นท้องถิ่น คาเฟ่น่ารัก ๆ ร้านอาหารและร้านขนมแบบสวิสดั้งเดิม ท่ามกลางบรรยากาศสวย ๆ ที่ให้เราได้เดินเล่นช้อปปิ้งกันได้อย่างเพลิดเพลิน

สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยซูริค (University of Zurich) บนพื้นที่กว่า 53,000 ตารางเมตร ที่ได้รวบรวมพันธุ์พืชมากกว่า 7,000 ชนิดจากทั่วโลก ไฮไลท์ของที่นี่คือเรือนกระจกทรงโดม 3 หลังขนาดใหญ่ที่แยกโซนพืชแต่ละสภาพภูมิอากาศ ได้แก่ ป่าเขตร้อนชื้น (Tropical Rainforest) ทะเลทรายแห้งแล้ง (Arid Zones) และพืชจากภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Plants) นอกจากนี้ยังมีโซนกลางแจ้งที่แบ่งสวนเป็นไม้ดอกตามฤดูกาล สวนสมุนไพร พืชท้องถิ่นยุโรป และสระน้ำที่มีพืชหายาก เป็นอีกหนึ่งสถานที่ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจไปกับธรรมชาติได้อย่างแท้จริง

ต้องบอกว่าซูริคนั้นเป็นเมืองที่ผสมผสานความคลาสสิคในยุคเก่าและความทันสมัยเอาไว้ได้อย่างลงตัว เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นย่านเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ ทะเลสาบที่สวยงามเงียบสงบ โบสถ์เก่าแก่ พิพิธภัณฑ์ระดับโลก ธรรมชาติที่แสนงดงาม และนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่เราได้แนะนำไปในข้างต้นแล้ว ซูริคยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่งที่รอให้คุณได้มาสำรวจด้วยตัวเอง เพื่อเก็บประสบการณ์ท่องเที่ยวอันน่าประทับใจที่เมืองใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้กันค่ะ