เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์

09-00-18.00 น.

เราช่วยคุณได้

@taladtour

Travel License : 11/11173

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

7 เมืองโครเกียร์ เมืองเล็กๆ มีสเน่ห์ในการมาท่องเที่ยวโครเอเอซีย

7 เมืองโครเกียร์ เมืองเล็กๆ มีสเน่ห์ในการมาท่องเที่ยวโครเอเอซีย

22

Mar

โครเอเชีย

7 เมืองโครเกียร์ เมืองเล็กๆ มีสเน่ห์ในการมาท่องเที่ยวโครเอเอซีย

รเอเชีย ตอนที่ 4 เมืองโทรเกียร์ เมืองเล็กๆ ที่มีมาตั้งแต่ยุคกรีก ในดินแดนโครเอเชีย น่ารักมาก เหมาะแก่การมาทัวร์โครเอเชียยิ่งนัก
ตั้งแต่ที่เราได้เข้ามาในประเทศโครเอเชียในทริปนี้ เราเริ่มสำรวจ ในเขตอีสเตรีย และตอนนี้เรากำลังเลาะลงสู่ทะเลใต้ โดยให้จินตนาการว่า ประเทศโครเอเชียมีลักษณะประเทศ เหมือนพระจันทร์เสี้ยว เรากำลังมุ่งหน้าลงสู่ปลายสุดของเสี้ยวพระจันทร์ทางด้านใต้ และจะมีเมืองที่ชื่อว่าสปลิท (Split) อยู่ตรงกลาง ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ระดับ 1 คือเมืองซาเกรบ (Zagreb) แล้วเราจะไปเยี่ยมชมพระราชวังดิโอเคลเชี่ยน (Diocletian Palace)  ซึ่งจักรพรรดิ์ดิโอเคลเชี่ยนแห่งอาณาจักรโรมัน เป็นพระจักรพรรดิในช่วงศตวรรษที่ 3 คือหลังจากที่พระคริสต์สิ้นพระชนม์ไปแล้ว แต่ในช่วงสมัยของพระองค์นั้นยังไม่อนุญาตให้ผู้คนนับถือศาสนาคริสต์ ถ้าใครนับถือศาสนาคริสต์จะมีโทษถึงขั้นประหาร เพราะคนในยุคนั้นยังคงนับถือลัทธิเพแกน (Pegan) นั่นคือศาสนาที่มีความเชื่อในเทวะ หรือพระเจ้าหลายองค์ (Polytheistic) มีจูปิเตอร์ (Jupeter) หรือ ซุส (Zeus) เป็นเจ้าแห่งเทพทั้งปวง ปกครองทั้งสวรรค์ พิภพ และบาดาล และพระองค์เปรียบตัวเองเหมือนเทพเจ้าสูงสุด และ พระราชวังแห่งนี้เมื่อสิ้นสมัยของพระองค์ชาวสโลนา ซึ่งอยู่ในเมืองสปลิท ประเทศโครเอเชียนี่แหละ ก็ได้ย้ายเข้ามายึดครองพระราชวัง.. ณ ที่แห่งนี้เองก็เป็นที่ถ่ายทำฉากหนึ่งในซีรี่ส์ชื่อดัง Game of Thrones ไปทัวร์โครเอเชียกันเถอะ ^^

วันที่หนึ่ง - เมืองโทรเกียร์ (Trogia)

     เมืองโทรเกียร์ (Trogia) เป็นเมืองเล็กๆ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1997 เพราะเป็นเมืองทรงแปดเหลี่ยมเก่าแก่ตั้งแต่ก่อนสมัยคริสตวรรษ มีผู้คนอยู่อาศัยจนถึงปัจจุบัน เมืองนี้ไม่เคยมีภัยพิบัติ แผ่นดินไหว หรือถูกทำลาย จึงได้ชื่อว่า เป็นเมืองที่พระเจ้าประทาน และยังเป็นเมืองที่มีการดูแลศิลปะโรมาเนส-โกธิก จากยุคกลางมาอย่างดีเลิศ.. สินค้าที่น่าซื้อกลับบ้านเราคือ ฟองน้ำธรรมชาติ หรือสปอนจ์ (Sponge) เป็นสัตว์ใต้ทะเล เอามาใช้เหมือนฟองน้ำขัดผิวเวลาอาบน้ำ แต่มีความนุ่มละเอียด และทนมากค่ะ ใช้ได้เป็นสิบปี นอกจากนั้นเมืองนี้น่ารักมากๆ ค่ะ มีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ มากมาย บ้านเมืองเป็นตรอกซอกซอยเล็กๆ เชื่อมต่อกัน
          อีกสักครู่หนึ่ง เราก็จะถึงเมืองโทรเกียร์ (Trogia) ซึ่งออกเสียงเรียกว่า โตรเกีย เป็นเมืองเล็กๆ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยก่อนพระคริสต์บังเกิด คือช่วง BC 4 เป็นช่วงที่ชาวกรีก มองหาที่ขึ้นฝั่งหลังจากการเดินทางทางเรือมายาวนาน ก็จะต้องหาที่พักผ่อน หาแหล่งน้ำจืด หาเสบียงอาหาร จึงมาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่เกาะโทรเกียร์แห่งนี้ ซึ่งส่วนนี้เองคือ แคว้นดัลเมเชีย (Dalmatia).. สมัยกรีกนั้น เมืองนี้ชื่อทราโกส 


(Tragos) มีความหมายว่า แพะตัวผู้ และเพี้ยนมาเป็นโทรเกียร์ในภาษาโครเอท การพัฒนาเมืองมีต่อมาในยุคโรมัน และได้เสื่อมไป ต่อด้วยยุคเวเนเชียน (Venetia) ซึ่งมีการสร้างโบสถ์ในศตวรรษที่ 15-16 เมืองนี้มี วิหารเซนต์ลอร์เรนซ์ (Cathedral of Saint Lawrence) สร้างในศตวรรษที่ 13 มาเสร็จในศตวรรษที่ 16 เป็นศิลปะประยุกต์ระหว่างโรมาเนส เรเนซอง จนถึงเวเนเชียน

วันที่สอง - แผนที่การเดินเที่ยวเมืองโทรเกียร์

 การเดินเที่ยวเมืองโทรเกียร์ (Trogia) นั้น ก็ไม่ยากเลยค่ะ มีถนนสายหลักๆ อยู่สายเดียวนะคะยาว 200 เมตร ก็เกาะน่ารักนี้ มีความยาวแค่ 500 เมตร และกว้างแค่ 250 เมตรเองค่ะ เมื่อเราเดินผ่านเข้าตรอกเล็กๆ ไปจะเจอวิหารเซนต์ลอร์เรนซ์ (Cathedral of Saint Lawrence)  อยู่ทางด้านซ้ายมือ ซึ่งหอคอยวิหารนี้ นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในเกาะโทรเกียร์ มีความสูง 47 เมตร ใช้เวลากว่า 400 ปีในการสร้าง เริ่มสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เป็นโบสถ์ศิลปะสไตล์โรมาเนส-โกธิก และสร้างหอระฆังใน ศตวรรษที่ 16 ซึ่ง ณ จุดนี้ เราจะสามารถเห็นวิวที่งดงามของโทรเกียร์ นอกจากประตูทางเข้าที่งามเลิศแล้ว วิหารนี้ยังเป็นวิหารที่ทำพิธีศีลจุ่มของเซนต์จอห์น นักบุญอุปถัมภ์อีกองค์ของโทรเกียร์...

วันที่สาม - การเดินเที่ยวเมืองโทรเกียร์

ความสนุกสนานในการเดินเที่ยวเมืองโทรเกียร์นี้คือ เดินเที่ยวตรอกซอกซอยเล็กๆ นี้ ซึ่งสร้างมากตั้งแต่สมัยกรีก โรมัน มาถึงยุคเวเนเชี่ยน และมีจัตุรัสไอศกรีม.. 555 ขนาดนั้นเชียว ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ คือเราตั้งใจจะมากินไอติมที่เมืองนี้ เพราะว่าอร่อยมาก ไม่ใช่เค้าว่ากันว่าแค่นั้นนะคะ แต่ไอติมที่นี่อร่อยจริงๆ ค่ะ ^^ เที่ยวโครเอเชีย และบริเวณนี้แหละค่ะ จะมีถนนที่มีแนวเส้นแบ่งระหว่างคนจน กับคนรวย .. อ้า ขนาดนั้น คนรวยอยู่ฝั่งพระราชวัง และคนจนไม่สามารถข้ามเข้ามาเขตคนรวย ฟังดูไร้สาระ แต่มันก็เกิดขึ้นจริงในสมัยโรมันค่ะ .. และเมื่อเรามองไปอีกฝั่งผ่านช่องทะเล เราจะเห็นเกาะชิโวโว่ (Ciovo) จริงๆ แล้วเมืองโทรเกียร์ มีลักษณะเป็นเกาะเล็ก อยู่ระหว่างกลางของแผ่นดิน และเกาะชิโวโว่.. เมื่อเราเดินเล่นไปสุดทางเดินเลียบทะเลอันสวยงาม ด้วยแสงสะท้อนของแสงอาทิตย์กระทบกับแผ่นน้ำ เราจะพบกับป้อมคาเมอร์เลงโก้ 


(Kamerlengo Castle) สร้างในศตวรรษที่ 15 เป็นของกองทัพเรือเวเนเชี่ยน ป้จจุบันใช้เป็นที่จัดงานและคอนเสิร์ตต่างๆ รวมถึงงานเทศกาลที่มีชื่อเสียง Moondance Festival และมีพระราชวังเดิม ที่ปัจจุบัน ใช้เป็นโรงเรียนประถมศึกษา และอีกเรื่องที่น่าสนใจคือ ร้านขายยาร้านแรกของยุโรป เปิดขึ้นที่เกาะโทรเกียร์นี้นะจ้ะ อ่าฮ้า..! ใช่ค่ะ ร้านขายยานี้เปิดทำการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 1271 ใกล้ๆ กับจัตุรัสกลางเมือง หลักฐานคือเอกสารที่บันทึกโดยเจ้าของร้าน เก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เมืองโทรเกียร์ แต่ว่าเภสัชกรคนแรก เป็นชาวอิตาลี ในศตวรรษที่ 16 เราเดินเล่นเลาะไปถึงสะพานที่ข้ามไปยังเกาะชิโวโว่ เราใช้เวลาในการชื่นชมความงามของภาพทางออกทะเลที่สวยงาม อารมณ์ประมาณดูปากน้ำ แต่ว่าเป็นภาคยุโรป หลังคาสีส้ม มีป้อมปราการอยู่ในฉาก... สวยงามยิ่งนัก ถ้าเพื่อนมาเที่ยวโครเอเชีย ณ เมืองโทรเกียร์แห่งนี้ อย่าลืมแวะมาสะพานน้อยๆ นี้นะคะ มีวิวพันล้านรอเพื่อนๆ อยู่ค่ะ ^^