22
Mar
เวียดนาม
เที่ยวเวียดนาม พระราชวังเว้ หรือพระราชวังได่โหน่ย (Hue Royal Palace) ไปเที่ยวเวียดนามต้องไปที่นี่
ราชวงศ์เหงียนครองราชย์
พระราชวังนี้เป็นที่ครองราชย์ของราชวงศ์เหงียน คศ. 1801-1945 ราชวงศ์สุดท้ายของเวียดนาม ซึ่งมี 13 กษัตริย์ ซึ่งกษัตริย์องค์แรกคือ เหงียนอึ๋ง หรือคนไทยรู้จักพระองค์ในนาม กษัตริย์องเชียงสือ เคยขอความช่วยเหลือจากสยามให้ส่งทหารมาช่วยรบหลายหมื่นนาย ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1 ของเรา และกษัตริย์องค์ที่ 2 นั้นก็มีชื่อเสียงมาก ในเรื่องของมีสนมเยอะ ชื่อกษัตริย์ มิญ หมั่ง มีสนมประมาณ 500 กว่าคน แต่ละคืนจะมีสนมมาปรนิบัติ 4-5 คน ประชาชนได้นำยาดีมาถวายเรียกว่า เลามิงมาน ..พูดถึงกษัตริย์ที่มีความโดดเด่นอีกสักหน่อย คือ กษัตริย์องค์ที่ 12 กษัตริย์ขาย ดิ่ญ พระองค์เคยไปเรียนที่ฝรั่งเศส และได้สร้างหลุมศพของตัวเองสไตล์ฝรั่งเศสไว้บนภูเขา เล็กที่สุด แต่ใช้เวลาสร้างนานที่สุดถึง 11 ปีและวัสดุนั้นก็ใช้ของฝรั่งเศสทั้งหมด และองค์สุดท้าย องค์ที่ 13 กษัตริย์บ๋าวดั่ย จากนั้นสิ้นสุดระบอบกษัตริย์ และอำนาจมาอยู่ที่ประธานาธิบดีโฮจิมินห์
การเดินทางเที่ยวในพระราชวังเว้
จากจุดจอดรถ เดินตามริมถนนที่มีรถราโฉบเฉี่ยวข้างๆ เรา..เดินระวังกันหน่อยนะคะ และเดินข้ามสะพานข้ามทางน้ำ และรอดเข้าประตูวังชั้นนอก จากทั้งหมด 3 ชั้น เราจะพบกับปืนใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจของกษัตริย์ทางขวามือเรียงรายกันอยู่ ปืนใหญ่ ภาษาเวียดนาม เรียกว่า หลุด่าน 4 กระบอก และอีกฟาก มี 5 กระบอกรวมเป็น 9 ซึ่งเป็นเลขมงคลของชาวเวียดนาม
ป้อมหอสังเกตุการณ์
จากนั้น เดินไปทางซ้าย เพื่อไปเข้าประตูวัง ซึ่งนับว่าจะเข้าเขตวังชั้นใน เราจะพบกับลานกว้างซ้ายมือจะเห็นป้อมหอสังเกตุการณ์ที่มีธงชาติเวียดนามใหญ่มากตระหง่านอยู่ ซึ่งธงนี้ แสดงถึงความสมหวังของคนเวียดนาม สีแดงแสดงถึงเลือดเนื้อของทหารเวียดนามที่สละชีพเพื่อชาติในสมัยสงคราม สีเหลืองแสดงถึงสีผิวของชาวเอเชียเรา ดาวห้าแฉกแสดงถึงการที่เวียดนามต้องการเป็นเพื่อนกับทุกประเทศทั้งห้าทวีป
ซื้อตั๋วเข้าในพระราชวังเว้
ก่อนเข้าพระราชวัง เราก็ไปซื้อตั๋ว 150,000 ดอง หรือประมาณเกือบ 200 บาท เป็นการ์ดแข็งภาพพระราชวัง ซึ่งเค้าจะเก็บไปตอนเราผ่านเข้า..เพื่อนๆ เก็บภาพการ์ดนี้กันไว้ก่อนนะคะเป็นที่ระลึก ^^ จุดเก็บตั๋ว คือกำแพงวังสูง 2 ชั้นประดับตกแต่งอย่างสวยงาม และเท่ากับว่า เราได้เข้าสู่ตัววังชั้นใน ผ่านเข้ามาจะพบกับเสามังกร และสระน้ำ 2 ข้างมีปลาคาร์ปตัวโตแหวกว่าย และกอบัวใบใหญ่ดอกโต เราเดินผ่านตรงไป นั่นคือท้องพระโรงถายฮวาน สร้างปี คศ. 1833 ไว้จัดประชุมต่างๆ จะมีประตูทางด้านหลังสำหรับกษัตริย์เดินเข้ามาเพื่อนั่งว่าการงานบนบัลลังก์ โถงด้านนึงไว้รับแขกต่างชาติ อีกด้านเป็นแม่ทัพนายกอง โดยมีการประชุมเดือนละ 2 ครั้ง คือวันที่ 1 และ 15 สถาปัตยกรรมคล้ายจีน มีภาพเขียนมังกรซึ่งเป็นสัตว์มงคล ด้านบนอาคารเป็นโค้งๆ เพื่อให้เสียงกษัตริย์ดังก้องเวลาว่าราชการ โครงด้านนอกเป็นไม้สัก สีหลักที่ใช้เป็นสีแดงและเหลืองซึ่งเป็นสีมงคล ปัจจุบันหากเห็นอาคารสีแดงเหลือง จะเข้าใจได้เลยว่านั่นคืออาคารของราชการ ..ท้องพระโรงแห่งนี้ยังคงเดิมอยู่มาก รอดพ้นการทำลายของการทิ้งระเบิดโดยฝรั่งเศสในปี คศ. 1967 แต่น่าเสียดายทั้งวังนี้เหลือให้เราเห็นแค่เพียง 10% เท่านั้น
เดินเที่ยวชมความงามในพระราชวังเว้