ทำไมต้องเที่ยวไอซ์แลนด์ในฤดูหนาว เที่ยวเอง หรือเที่ยวกับทัวร์ไอซ์แลนด์ ต้องเก็บให้ครบ

Þingvellir and Öxarárfoss

เริ่มต้นกันที่แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิต คือ อุทยานแห่งชาติธิงเวลลีย์ Þingvellir National Park จุดนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้คนมาทัวร์ไอซ์แลนด์ได้ด้วยกำแพงหินขนาดใหญ่ที่เกิดจากรอยเคลื่อนของเปลือกโลกเป็นหมื่นๆ ก.ม. ทำให้มีทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตาจนยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้ที่นี่เป็นมรดกโลกด้วย ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์มีสถานที่ท่องเที่ยวย่อยๆ อยู่ในพื้นที่อีกมากมาย เช่น น้ำพุร้อน Geysir และน้ำตก Öxarárfoss

น้ำตกสะพาน Brúarfoss

Brúárfoss หรือ น้ำตกสะพาน (Bridge Waterfall) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ ความสวยงามอลังการของน้ำตกแห่งนี้ เกิดจากการเปลี่ยนระดับของแม่น้ำ Brúará ที่ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม ทั้งนี้ จุดต่างระดับของแม่น้ำที่ลึกที่สุดอยู่ที่ประมาณ 2.5 เมตร ทำให้ที่แห่งนี้กลายเป็นน้ำตกสูงที่สวยงาม เมื่อไปเยี่ยมชมเราจะสามารถมองเห็นสายน้ำที่ทอดยาวเป็นลำธารไหลเอื่อยๆ ลงมาเป็นน้ำตกสีฟ้าใสสุดแปลกตา เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวในทริปทัวร์ไอซ์แลนด์ที่ควรค่าแก่การมาเยือนอย่างที่สุด

น้ำพุร้อนกีเซอร์ Geysir

Geysir หรือน้ำพุร้อนกีเซอร์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ในหุบเขา Haukadalur สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ และเป็นจุดที่ใครมาเที่ยวไอซ์แลนด์ต้องไม่พลาด เพราะ Geysir เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากแรงพวยพุ่งของสายน้ำพุร้อนจากใต้ดินขึ้นมาสู่ผิวโลก น้ำพุที่พุงขึ้นนั้นมีความสูงกว่า 80 เมตร โดยน้ำพุจะโผล่จากพื้นดินทุก ๆ 3-5 นาที สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้คนที่มาเยือน ซึ่งในช่วงฤดูหนาวบรรยากาศโดยรอบจะยิ่งงดงามน่าตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด

น้ำตกกุลล์ฟอสส์ Gullfoss

Gullfoss หรือ กุลล์ฟอสส์ เป็นน้ำตกที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ โดยน้ำตกนี้ตั้งอยู่ห่างจากไกเซอร์ ไม่เกิน 10 นาที จึงเป็นหนึ่งในทริปทัวร์ไอซ์แลนด์ที่เราอยากให้คุณได้ไปสัมผัส เมื่อมาชมที่นี่คุณจะได้พบกับอภิมหาน้ำตกที่น้ำไหลไปยังหุบเขาโบราณที่มีความสูงถึง 32 เมตร ละอองน้ำจะปะทะกับแสงเกิดเป็นสีรุ้งให้เห็นอยู่เสมอ ใกล้บริเวณน้ำตกเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวที่มีธารน้ำแข็งในลางโจกุล(Langjökull) อยู่เหนือขึ้นไป ถือเป็นอีกหนึ่งความงามตามธรรมชาติที่น่าทึ่งที่สุดของการมา

น้ำตกเซลยาลันส์ฟอส Seljalandsfoss

Seljalandsfoss หรือ น้ำตกเซลยาลันส์ฟอส ตั้งอยู่ระหว่างเมืองเซลฟอส (Selfoss) กับเมืองสโคคาร์ฟอสส์ (Skogafoss) จุดนี้ได้เป็นกลายเป็นสัญลักษณ์ของการมาเที่ยวไอซ์แลนด์ไปแล้ว ด้วยความสวยงามของน้ำตกที่แม้จะแคบไม่ใหญ่โตอลังการมาก แต่ก็มีความสูงถึง 60 เมตร ทำให้เมื่อสายน้ำไหลลงมาปะทะกับผืนน้ำด้านล่าง เกิดเป็นละอองน้ำบางๆ ฟุ้งกระจายไปทั่ว ที่สำคัญจุดนี้สามารถเดินอ้อมไปชมด้านหลังของน้ำตกได้ด้วย ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินมุมนี้จะถ่ายรูปได้สวยมากๆ ยิ่งในฤดูหนาวหิมะปกคลุมจะสวยงามเป็นพิเศษ

น้ำตกสโคคาร์ฟอสส์ SKOGAFOSS FALLS

น้ำตกสโคคาร์ฟอสส์ SKOGAFOSS FALLS ตั้งอยู่ในหมู่บ้านสโคการ์ เขตภาคใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งน้ำตกยอดฮิตที่พลาดไม่ได้ จุดนี้คุณจะได้พบกับความอลังการของน้ำตกขนาดใหญ่จนมนุษย์กลายเป็นเจ้าตัวจิ๋วไปเลย ในฤดูหนาวภูมิประเทศโดยรอบจะเป็นหิมะสีขาวโพลน น้ำตกที่ไหลลงมากลายเป็นธารน้ำแข็งที่ดูแปลกตา ไฮไลท์ของที่นี่ ก็คือการมาช่วงสาย ๆ ของวัน รอรับชมปรากฏการณ์แสงอาทิตย์กระทบละอองน้ำเกิดรุ้งกินน้ำแบบน่าอัศจรรย์

หมู่บ้าน วิค ไอ เมอดัล Vík í Mýrdal

พักจากน้ำตกมาเที่ยวชายหาดในไอซ์แลนด์กันบ้าง ที่นี่โด่งดังมากเพราะ Vík í Mýrdal หรือ วิค ไอ เมอดัล คือชื่อของหมู่บ้านที่มีชายหาดสีดำอันแปลกประหลาดมหัศจรรย์ ชายหาดของที่นี่ถูกจัดอันดับว่าเป็นหาดทรายสีดำที่สวยที่สุดในโลก เพราะเต็มไปด้วยกรวดสีดำสนิทที่แวววาว นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีโพรงถ้ำหินบะซอลต์ที่สวยงาม และเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้ธารน้ำแข็งอีกด้วย เรียกว่ามาเที่ยวเมือง Vík í Mýrdal เป็นอะไรที่คุ้มสุดๆ เลยล่ะค่ะ

Mossy Lava Rocks

จุดนี้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของการมาทัวร์ไอซ์แลนด์ เพราะเป็นทุ่งหินลาวาที่เกิดจากการเย็นตัวลงของภูเขาไฟ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติที่พืชมอสส์สีเขียวนุ่ม ๆ ดุจปุยนุ่น กระจายตัวปกคลุมทั่วดินแดนจนได้ชื่อว่าเป็น Mossy Lava Field จุดท่องเที่ยวแห่งนี้ตั้งอยู่ในเส้นทางระหว่างหมู่บ้าน Vík และหมู่บ้าน Kirkjubæjarklaustur เป็นเส้นทางหลักที่นักท่องเที่ยวไอซ์แลนด์นิยมเดินทาง ในฤดูหนาวก็สามารถเที่ยวชมได้โดยมอสส์จะมีสีขาวปนเทาสวยงามแปลกตาแตกต่างจากฤดูอื่นๆ

Fjarrgljfur Canyon

Fjarárgljfur Canyon เป็นภูมิประเทศแบบแคนยอน ลึก 100 เมตร ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ใกล้กับเมือง Kirkjubaejarklaustur ที่นี่ถืออีกหนึ่งสถานที่สุดฮอตเพราะจุดนี้เป็นพิกัดที่สวยงามจนหนุ่ม Justin Bieber เลือกใช้เป็นโลเกชั่นถ่ายทำมิวสิควีดีโอ เพลง I’ll Show You ใครมาเที่ยวไอซ์แลนด์ต้องไม่พลาดมาเช็คอินด์ ถ่ายรูปฟินๆ ในจุดนี้

Svartifoss waterfall

น้ำตกสวาร์ติฟอสส์ (Svartifoss) หรือ Black Waterfal ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Skaftafell National Park ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 4807 ตารางกิโลเมตร จุดเด่นของน้ำตกแห่งนี้ไม่ได้อยู่ที่ความสูงอลังการเหมือนที่อื่นๆ แต่อยู่ที่แท่นหินลาวาสีดำลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ ซึ่งธรรมชาติได้รังสรรค์ความสวยงามทางธรณีวิทยา จนกลายเป็นกำแพงสวยงามที่เป็นฉากหลังให้กับน้ำตก ที่สวยซะจนได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกแห่งไอซ์แลนด์ (Pearl of Iceland) มาเที่ยวไอซ์แลนด์ทั้งทีจุดนี้คือพลาดแล้วจะเสียใจและเสียดาย

Svinafell Glacier

มาเที่ยวไอซ์แลนด์ ทั้งทีก็ต้องมาชมธารน้ำแข็งกันทั้งนั้น และ Svínafell Glacier เป็นจุดเที่ยวชมธารน้ำแข็งที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดที่เราอยากจะแนะนำ Svínafell Glacier ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Skaftafell, Vatnajokull National Park ธารน้ำแข็งแห่งนี้เป็นธารน้ำแข็งที่เกิดตั้งแต่ยุคโบราณที่ยังไม่ละลาย จึงกลายเป็นทิวทัศน์แบบกราเซียที่สวยแปลกตาและน่าท่องเที่ยวมากๆ เพราะว่าเข้าถึงได้ง่ายจากถนนสายหลัก ใครไม่เคยเห็นธารน้ำแข็งแบบใกล้ๆ มาที่นี่คือได้เจอแน่นอน

Skaftafell Ice Cave

สิทธิพิเศษของคนมาเที่ยวไอซ์แลนด์ในหน้าหนาว ก็คือการได้ชม ถ้ำ Skaftafell ICE CAVE หรือที่บ้านเรานิยมเรียกว่าถ้ำน้ำแข็งคริสตัล Crystal Ice Cave สาเหตุที่เรียกชื่อนี้ก็เพราะว่า ภายใน Skaftafell ICE CAVE นั้น ตัวผนังถ้ำมีก้อนน้ำแข็งสีฟ้าอ่อนเกาะติดอยู่เมื่อผลึกของน้ำแข็งกระทบกับแสงสว่างที่ส่องเข้ามาในถ้ำ ทำให้เกิดสีสันประกายที่สวยงามแวววาวราวผลึกคริสตัลนั่นเอง ใครอยากจะมาเที่ยวชมที่นี่ต้องมาในหน้าหนาวเท่านั้นนะ เพราะเราสามารถชมความงามของถ้ำน้ำแข็งได้ ที่อุณหภูมิประมาณลบ 25 ถึง 30 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ ถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง Skaftafell การเดินทางเข้าชมต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะ จำเป็นจะต้องติดต่อไกด์ท้องถิ่นให้ช่วยดูแล แต่ถึงจะยุ่งยากสักหน่อยในการเข้าชมแต่บอกเลยว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ

Jokulsarlon Glacial Lagoon

Jokulsarlon Glacial Lagoon หรือ โจกุลซาลอน การ์เซีย ลากูน เป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทางใต้ของวัทนาโจกุล (Vatnajökull) ที่แห่งนี้ถือเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป โดยตั้งอยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติ Skeftalfell National Park และเมือง Hofn ธารน้ำแข็งแห่งนี้กินพื้นที่กว้างถึง 18 ตารางกิโลเมตร มีความลึกของน้ำถึง 200 เมตร เมื่อมาเที่ยวชมที่นี่เราจะได้เห็นภูเขาน้ำแข็งที่ทะลายลงและธารน้ำแข็งที่แตกออกไหลลงไปยังทะเลสาป ค่อยๆละลาย อีกทั้งยังจะได้ชมความสวยงามของสัตว์ท้องถิ่นต่างๆ เช่น นกทะเลสีดำ หรือ big seagulls ในส่วนการเดินทาง ธารน้ำแข็งแห่งนี้สามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก อยู่ติดกับถนนเส้นทางหลักสามารถมาเที่ยวชมได้ง่ายๆ

Jokulsarlon Ice Beach

จาก Jokulsarlon Ice Beach หรือทะเลสาบธารน้ำแข็ง เราจะพากันไปต่อที่ Jokulsarlon Ice Beach ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ เป็นชายหาดของธารน้ำแข็ง ถ้าใครกำลังคิดถึงชายหาดสีขาวแบบทะเลบ้านเราบอกเลยว่าไม่ใช่นะ ชายหาดของ Jokulsarlon Ice Beach เป็นหาดสีดำด้วยหินกรวดที่มีความแวววาว สามารถพบเห็นก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่ละลายจากธารน้ำแข็งไหลมาเกยตื้นอยู่บนหาดได้ทั่วๆไป ใครจะไปเที่ยวชมต้องไม่ลืมซื้อหาที่ใส่รองเท้ากันลื่นไปด้วยนะ จะได้เดินเล่นบนชายหาดที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็งได้แบบฟินๆ

Vesturhorn Mountain

และมาถึงทริปทัวร์ไอซ์แลนด์แบบเอาใจคนรักความสงบกันบ้าง Vestrahorn Mountain หรือ ภูเขาเวสตราฮอร์น มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Stokksnes เป็นจุดชมวิวแบบภูเขาที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเฮิฟ์น (Höfn) ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวจุดหลักๆ ที่คณะทัวร์ไอซ์แลนด์ต้องมาชมกัน แต่จุดท่องเที่ยว Vestrahorn Mountain แห่งนี้ มีความสวยงามในมุมของธรรมชาติที่เห็นทิวเขางดงาม มีค่าเฟเล็กๆ น่ารักๆ ซ่อนตัวให้คนมาเที่ยวชมได้ผ่อนคลายกัน เป็นจุดที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักถ่ายภาพแลนด์สเคป ที่มีวิวภูเขาเงาภาพสะท้อนน้ำหาดทรายสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ ใครที่ชอบความงามแบบเรียบง่ายจุดนี้ต้องห้ามพลาดทีเดียว

เกร็ดความรู้

*** เกร็ดความรู้ ***

ไอซ์แลนด์ดินแดนมหัศจรรย์สำหรับนักท่องเที่ยวนั้น เป็นประเทศที่สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เรียกว่าไปเมื่อไหร่ก็ค้นพบความงามที่แปลกตาและแตกต่างกันเสมอ ฤดูหนาวถือเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลยอดนิยมของการมาทัวร์ไอซ์แลนด์ ใครที่กำลังลังเลใจว่าจะไปเที่ยวไอซ์แลนด์ช่วงไหนดี บอกเลยว่าเที่ยวฤดูหนาวก็ฟินขั้นสุดน่าไปมากๆ ไม่แพ้ฤดูอื่นเลย