เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์

09-00-18.00 น.

เราช่วยคุณได้

@taladtour

Travel License : 11/11173

หน้าแรก

/

ข้อมูลท่องเที่ยว

/

เที่ยวญี่ปุ่น

แนะนำแหล่งช้อปปิ้งแหลกแหกทางโค้ง มิตซุย เอาท์เลต

แนะนำแหล่งช้อปปิ้งแหลกแหกทางโค้ง มิตซุย เอาท์เลต

126

แนะนำแหล่งช้อปปิ้งแหลกแหกทางโค้ง มิตซุย เอาท์เลต Mitsui Outlet Park Sapporo Kotahiroshimaเมื่อหลายๆท่านได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น บิน 5 ชั่วโมงเองก็ไปถึงเมืองฮอกไกโด เวลาเราไปทัวร์ญี่ปุ่นเที่ยวซัปโปโรอย่างอิ่มหนำสำราญแล้วอย่างลืมแวะไปช้อปปิ้งแหลกแหกทางโค้งที่ มิตซุย เอ้าท์เล็ทพาร์ค ซัปโปโร คิดตะฮิโรชิมะ  Mitsui Outlet Park Sapporo Kotahiroshima เป็นเอาท์เล็ทมอลล์ขนาดใหญ่อีกแหน่งหนึ่งของเมืองฮอกไกโด จึงไม่แปลกที่จะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยจำนวนมากเมื่อมีโอกาศมาเที่ยวฮอกไกโดแล้ว จึงจะต้องแวะมาที่นี่ ที่นี่มีร้านค้าทุกประเภทกว่า 180 แห่ง มีสินค้าแบรด์เนมที่มีเชื่อเสียงให้เลือกมากมาย อาทิเช่น COACH, NIKE, ONITSUKA TIGER, ร้านขายยา MATSUMOTO KOYOSHI และร้านอื่นๆอีกมากมาย สำหรับชั้นที่ 1 ของมิตซุย เอ้าท์เล็ทพาร์ค ซัปโปโร จะมีมุมจำหน่ายของที่ระลึกในฮอกไกโด เราสามารถที่จะหาสาเกท้องถิ่นฮอกไกโดได้ที่นี่เพื่อที่จะเป็นของฝากสำหรับครอบครัวของเรานั่นเอง

5 ลานสกีสุดเจ๋งในฮอกไกโด อยากเล่นสกีมันส์ๆ ในฤดูหนาวของญี่ปุ่น หิมะนุ่ม เซลฟี่ ฟินสุด

5 ลานสกีสุดเจ๋งในฮอกไกโด อยากเล่นสกีมันส์ๆ ในฤดูหนาวของญี่ปุ่น หิมะนุ่ม เซลฟี่ ฟินสุด

163

เล่นสกีฮอกไกโด หิมะผงของฮอกไกโดได้รับการยกย่องจากนักเล่นสกีและนักสโนว์บอร์ดทั่วโลกว่าเป็นหิมะคุณภาพดีที่สุดในโลก มีสกีรีสอร์ทชื่อดังมากมายในฮอกไกโด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Rusutsu และ Niseko มีชื่อเสียงมากในเรื่องผงหิมะและสิ่งอำนวยความสะดวก โรงแรม / ที่พักการขนส่งและน้ำพุร้อน (ออนเซ็น) มีให้บริการอย่างดี รีสอร์ทต่อไปนี้มีพนักงานที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ (บางแห่งสามารถพูดภาษาจีนและเกาหลีได้) นี่คือการแนะนำรีสอร์ทสกีที่ดีที่สุด 5 แห่งในฮอกไกโดสำหรับฤดูกาลล่าสุดปี 2561-2562

7 ทุ่งลาเวนเดอร์ ฮอกไกโด 2019 ขาเที่ยวญี่ปุ่นต้องไปให้ได้สักครั้ง!

7 ทุ่งลาเวนเดอร์ ฮอกไกโด 2019 ขาเที่ยวญี่ปุ่นต้องไปให้ได้สักครั้ง!

177

ชมทุ่งลาเวนเดอร์ ฮอกไกโดญี่ปุ่น ไปเที่ยวด้วยกัน วันนี้จะพาคุณไปทัวร์ฮอกไกโดในช่วงฤดูร้อน ถ้าพูดถึงฤดูร้อนแล้วก็....หลายๆท่านก็คงไม่อยากออกไปไหน คงอยากจะเอาตัวซุกอยู่ในบ้าน หรือไม่ก็ชวนแฟนไปเดินชิวๆในห้างสรรพสินค้าอย่างแน่นอน อย่างที่ไปเที่ยวด้วยกันได้เกริ่นไปแล้วว่าเราจะพาคุณออกจากบ้านไปเที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน ในช่วงระหว่างเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม ช่วงนี้อย่างแน่นอนหลายๆคนในเกาะฮอนชูซึ่งเป็นเกาะหลักของญี่ปุ่นกำลังเหงื่อออก เพราะอยู่ในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่นนั่นเองและช่วงนี้ค่อนข้างจะร้อนและชื้น ดังนั้นสถานที่ๆดีสำหรับการออกไปพักผ่อนชิวๆในช่วยฤดูร้อนนั่นก็คือ ชมสวนดอกไม้ทุ่งลาเวนเดอร์ ซึ่งคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่นิยมออกไปชมทุ่งดอกไม้ในช่วงนี้กันอย่างมาก ถ้าเราขึ้นทางเหนือๆของฮอกไกโดหน่อย เราก็จะไม่พลาดที่จะไปปักหมุดกับสถานที่ท่องเที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์ฮอกไกโดที่สวยงาม

8 เที่ยวญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นฤดูไหนถึงจะดีที่สุด รู้ไว้ก่อนไปญี่ปุ่น

8 เที่ยวญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นฤดูไหนถึงจะดีที่สุด รู้ไว้ก่อนไปญี่ปุ่น

136

ภูมิอากาศในประเทศญี่ปุ่นนั้นจะถูกออกแบ่งเป็น 4 ฤดู แต่ความจริงแล้วเราสามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดู แต่ด้วยความแตกต่างของลักษณะและสภาพพื้นที่ในแต่ละภูมิภาค ทําให้การผลิดอก ออกใบของดอกไม้ และพืชพันธุ์ต่างๆ ที่เป็นไฮไลท์สําหรับการท่องเที่ยวที่มีช่วงเวลาพิคซีซั่นที่ไล่กันไปตามฤดูกาล เรามาเริ่มต้นกันที่ ฤดูแรกของประเทศญี่ปุ่นกันเลยนะครับ1. ฤดูหนาวญี่ปุ่น  (เริ่มเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์)       ใครที่อยากไปสัมผัสหิมะ และเล่นสกี ก็เลือกไปญี่ปุ่นช่วงเดือนที่ว่านี้อากาศทั่วทุกภูมิภาคจะเริ่มเย็นลงเรื่อยๆจนถึงช่วงเดือนมกราคมซึ่งถือว่าหนาวที่สุด ตามยอดเขาต่างๆจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนโดยเฉพาะฮอกไกโดจะมีฤดูหนาวเย็นกว่าที่อื่นๆ และมีการจัดงานเทศกาลหิมะเทศกาลน้ำแข็งในหลายเมืองนอกจากนี้สกีรีสอร์ทในหลายเมืองทั่วญี่ปุ่นจะคึกคักเป็นพิเศษ ถ้าเพื่อนๆต้องการไปฮอกไกโดช่วงนี้ และหาที่พักไม่ได้ ทางทีมงานขอแนะนำสกีรีสอร์ทที่ท่านสามารถพักแล้วก็ออกมาเล่นสกีได้เลย สะดวกสบายอย่างมาก คือ คิโรโร๊ะ สกีรีสอร์ท2. ฤดูร้อนญี่ปุ่น (เริ่มเดือนมิถุนายน-กันยายน)       ฤดูร้อนในญี่ปุ่นเริ่มในเดือนมิถุนายนเป็นการเริ่มต้นแห่งฤดูของการเพาะปลูกพืชผักผลไม้ และข้าวแม้จะขึ้นชื่อว่าหน้าร้อนแต่ที่ญี่ปุ่นกลับไปฤดูที่มีเสน่ห์ไปอีกแบบ ถือเป็นฤดูแห่งความสนุกเพราะเป็นช่วงที่มีเทศกาลประจำปีต่างๆมากมายมีการจุดพลุเฉลิมฉลองงานวัด และพิธีต่างๆอากาศจะเริ่มอบอุ่นขึ้นจนถึงร้อนในช่วงที่มีมรสุมเข้าก็อาจทำให้ฝนตกติดต่อกันทั้งวันหรือเป็นอาทิตย์แต่สำหรับเกาะฮอกไกโดนั้นนับว่าเป็นช่วงไฮไลท์ที่อากาศกำลังสบายสบาย นักท่องเที่ยวจะมากันมากที่สุดเพื่อชมดอกลาเวนเดอร์และทุ่งดอกไม้หลากสี3. ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น  (เริ่มเดือนมีนาคม-พฤษภาคม)       เป็นช่วงอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นกำลังเย็นสบายๆ ท้องฟ้าแจ่มใสเป็นเวลาแห่งการชมดอกไม้หลากหลายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นดอกฟูจิ ( Wisteria ) ดอกสึสึจิ ( azalea )  ดอกไอริส ดอกอะจิไซ โดยเฉพาะราชินีแห่งดอกไม้ของฤดูกาลนี้ คือดอกซากุระซึ่งจะบานเพียงแค่ราว 1 สัปดาห์เศษๆเท่านั้น โดยจะเริ่มผลิบานจากทางใต้แถบเกาะโอกินาวาไร่ขึ้นไปด้วยเรื่อยๆ จนถึงเกาะฮอกไกโดส่วนจะบานช่วงวันไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแต่ละปีนั้นๆ ช่วงเวลานี้จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกไม้ซึ่งกลายเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่คนญี่ปุ่นจะมาปูเสื่อนั่งทานอาหารสังสรรค์กันใต้ต้นซากุระ ช่วงเวลานี้อาจจะเป็นการต้อนรับน้องใหม่ในการทำงานและมีการกำหนดให้พนักงานที่เริ่มทำงานใหม่มาจับจองสถานที่ที่นั่งใต้ต้นซากุระให้ได้ เพื่อเป็นการทดสอบความกล้าหาญและความอดทนอดกลั้นการท่องเที่ยวถือเป็นไฮซีซั่นช่วงที่ดีที่สุด4. ฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น  (เริ่มเดือนกันยายน-พฤศจิกายน)       ฤดูกาลนี้จะเป็นฤดูแห่งสีสัน เป็นช่วงที่มีอากาศดี๊ดี กำลังสบายๆ ไม่ร้อนและไม่หนาวจนเกินไป อากาศจะค่อยๆเย็นลงช่วงเดือนตุลาคม และในช่วงเดือนนี้อาจจะยังมีฝนตกบ้างประปรายไม่มากนัก และต้นไม้ต่างๆจะเริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีแดง ส้ม เหลือง ให้พวกเราได้เห็นกัน โดยเฉพาะใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ต้นแปะก๊วยจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามงามแท้ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะสร้างสีสันให้แต่ละเมืองเป็นอย่างมาก นับเป็นเวลากว่า 1 เดือน ไล่มาตั้งแต่เกาะฮอกไกโดลงไปจนถึงทางใต้ที่เกาะคิวชู ฤดูนี้ถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นอีกช่วงหนึ่งของญี่ปุ่นและมีผู้คนชอบซื้อทัวร์ญี่ปุ่นไปช่วงฤดูนี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่วงที่ธรรมชาติตามป่าเขา วัด ศาลเจ้าและสวนสาธารณะต่างๆ จะมีสีสันมากที่สุด

เที่ยวคุราชิกิ เมืองวินเทจเล็ก เดินเที่ยว พายเรือ ช้อปปิ้งเมืองเก่าสมัยเอโดะ

เที่ยวคุราชิกิ เมืองวินเทจเล็ก เดินเที่ยว พายเรือ ช้อปปิ้งเมืองเก่าสมัยเอโดะ

148

เที่ยวเมืองเก่าคุราชิกิ ( Kurashiki ) วันนี้ "ไปเที่ยวด้วยกัน " จะพาทัวร์ฮิโรชิมา ก่อนอื่นที่จะพาทุกท่านไปเที่ยวฮิโรชิมา ทางทีมงานต้องขอขอบคุณ สายการบินนกแอร์ ที่สนับสนุนให้ทีมงานไปถ่ายทำที่ฮิโรชิมา สำหรับท่านไหนอยากจะไปทัวร์ญี่ปุ่นมาสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินกับสายการบินนกแอร์ได้เลยนะจร้า เขาบินตรงแล้ว และบริการดีเยี่ยมเลย เอาละเข้าเรื่องกันได้แล้ว คุราชิกิ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัด โอคายะมะ เมืองวินเทจเล็กๆที่ใครมากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ สำหรับใครที่จะลองแวะไปครั้งแรกรับรองว่าจะติดใจ และอยากจะกลับไปเที่ยวที่นี่บ่อยๆ เมื่อมีโอกาศไปเที่ยวญี่ปุ่นอีก เราขอกระซิบบอกเลยนะว่าเมืองนี้เป็นจุดศูนย์รวมธรรมชาติแสนสวยงามโดยเฉพาะแม่น้ำคุราชิกิซึ่งมีประวัติศาตร์ยาวนาน มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะ และร้านอาหารแสนอร่อย ร้านขนมคุณไปแล้วจะไม่พลาดกับการช้อปปิ้งเพื่อเป็นของฝาก พูดได้ว่าย่านนี้ได้รวบรวมสินค้าจากพ่อค้าในยุคเอโดะมาไว้ที่นี่เลยแหละทีเดียว

วัดน้ำใส คิโยมิสึ Kiyomizu Temple วัดน้ำศักศิทธิแห่งเมืองเกียวโต เที่ยวกับทัวร์ญี่ปุ่น

วัดน้ำใส คิโยมิสึ Kiyomizu Temple วัดน้ำศักศิทธิแห่งเมืองเกียวโต เที่ยวกับทัวร์ญี่ปุ่น

167

วัดคิโยมิสึ (Kiyomizudera Temple : 清水寺) ซึ่งแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นจะมีความหมายว่า "น้ำบริสุทธิ์" และเป็นวัดอีกวัดหนึ่งที่คนไทยรู้จักกันในชื่อว่า วัดน้ำใส นั่นเอง ไปเที่ยวด้วยกันขอแนะนำเลยนะจร้าว่า เมื่อคุณไปเที่ยวเกียวโตแล้วต้องห้ามพลาด ไปเที่ยววัดน้ำใสให้ได้ ตอนนี้คนไทยนิยมไปเที่ยววัดนี้เป็นอย่างมากเลย และวัดนี้เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมบัติของชาติของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันตกของเกียวโต จุดเด่นของวัดคิโยมิสึก็คืออาคารไม้หลังใหญ่และระเบียงที่สูง 13 เมตร มีตำนานในสมัยเอโดะ และอย่างแน่นอนเลยว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดหนึ่งที่มีเชื่อเสียงภายในวัดนั่นก็คื น้ำใส 3 สาย คิโยมิสึ ซึ่งน้ำใส 3 สายนี้มีความศักสิทธิ์อย่างมากมีคำเล่าลือมาตั้งแต่สมัยโบราณ*** เกร็ดความรู้ ***การเดินทางไปวัดน้ำใส หรือวัดคิโยมิสึนั้นสามารถเดินทางได้สองทางด้วยกันแล้วแต่คุณจะเลือก คือ วิธีที่ 1. เลือกเดินทางกับ ทัวร์ญี่ปุ่น เดินทางไปเป็นคณะ บริษัททัวร์จะเตรียมการรายละเอียดการเดินทางให้กับท่านหมดทุกอย่าง หน้าที่ของท่านคือไปเจอกับคณะจุดนัดหมายที่สนามบินเท่านั้น วิธีที่ 2. เดินทางแบบ แบ็คแพค วิธีนี้เพื่อนๆอาจจะต้องเตรียมตัวหาข้อมูลในการเดินทางเยอะหน่อย และสิ่งที่สำคัญท่านจะต้องจองทุกอย่างจัดเตรียมด้วยตัวเอง ขึ้นอยู่กับเพื่อนๆว่าจะเลือกการเดินทางแบบไหน

เที่ยวญี่ปุ่น เมืองฮอกไกโด ช่วงนี้ฮอกไกโดมาดังใครจะไปเที่ยวต้องรู้ข้อมูลไว้

เที่ยวญี่ปุ่น เมืองฮอกไกโด ช่วงนี้ฮอกไกโดมาดังใครจะไปเที่ยวต้องรู้ข้อมูลไว้

105

ฮอกไกโดเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอับดับสองในประเทศญี่ปุ่น รองจากเกาะฮอนชู เดิมทีแล้วคนที่อาศัยอยู่ในเกาะฮอกไกโดจริงๆคือพวกไอนุ (Ainu) เป็นชนพื้นเมืองที่อยู่บนเกาะฮอกไกโดมาก่อนคนญี่ปุ่น  แต่ความที่เป็นฮอกไกโดมีพื้นที่กว้างขวางและอุดมสมบูรณ์   ทำให้คนจากพื้นที่รอบรอบๆข้ามมาอยู่ที่ฮอกไกโดกันมากขึ้น แต่เดิมเกาะแห่งนี้มีชื่อว่า อิโซะ(Ezo) ถูกจัดเป็นพื้นที่กันดาร  มีแต่เมืองท่าตอนใต้ชื่อฮาโกดาเตะเท่านั้นที่มีการทำประมงและการค้าขึ้นมาบ้าง  และมีที่ต่างกำลังทหาร  เช่น  ป้อมโกะเรียวคะงุ หรือป้อมรูปดาวห้าแฉกแห่งเมืองฮาโกดาเตะนั่นเอง      ต่อมาเมื่อเกิดสงครามกลางเมืองในญี่ปุ่น  ระหว่างฝ่ายสาธารณรัฐ  หรือพวกที่นิยมอำนาจของโชกุนอยู่เดิม กับฝ่ายที่จะคืนอำนาจให้จักรพรรดิ กับฝ่ายโชกุนเสียท่าจนต้องถอยร่อนมารวบรวมกองกำลังกันใหม่ที่ฮาโกดาเตะ และทำการตั้งเป็นสาธารณรัฐอิโซะขึ้นมาใหม่แล้วสู้รบกันต่อ  ซึ่งการรบครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นที่เมืองนี่แหละ  หลังจากรบกันได้ประมาณเดือนเศษๆ  ฝ่ายสาธารณรัฐก้อพ่ายแพ้ในการรบทางเรือครั้งสุดท้าย  และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างหรือจดจำชื่อได้อีกก็เลย  มีการเปลี่ยนชื่อเกาะ “อิโซะ” มาเป็นเกาะ “ฮอกไกโด”  มีความหมายว่า “ดินแดนทางเหนือ” แทน       ต่อมารัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มรู้สึกว่า จะปล่อยให้เกาะฮอกไกโดอยู่ว่างๆ รกร้างแบบนี้คงไม่ดีอีกต่อไป  เพราะเกาะนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก  กลัวว่าจะมีชาวรัสเซียซึ่งอยู่ทางด้านเหนือออกไกโด ที่อาศัยอยู่เกาะซาฮาลิน(Sakhalin)จะเข้ามาครอบครอง  จึงเริ่มเน้นการพัฒนาพื้นที่เพื่อให้คนญี่ปุ่นอพยพมาตั้งถิ่นฐานกันมากขึ้นและมีการพัฒนาในด้านเกษตรกรรม  มีการตั้งคณะผู้บุกเบิกเกาะฮอกไกโดขึ้น  และมีการวางผังเมือง ซัปโปโร(Sapporo) และสร้างขึ้นมาใหม่หมด  เพื่อที่จะให้เป็นเมืองหลวงของเกาะในเวลาต่อมา  หลังจากนั้นฮอกไกโดก็ได้มีการพัฒนาไปมาก ต่อมาในปี ค.ศ. 1971  มีการขุดอุโมงค์รถไฟลอดใต้ทะเล  ชื่ออุโมงค์ไซคัง(Seikan tunnel )  เชื่อมทางรถไฟจากเกาะฮอนชูขึ้นมาฮอกไกโดได้สำเร็จ  อุโมงค์นี้ได้เปิดใช้งานในปี ค.ศ. 1988 และอุโมงค์นี้ทำให้ขนส่งสินค้าและผู้คนได้สะดวกขึ้น  สวนรถไฟความเร็วสูง หรือชินคันเซ็นยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างรางและคาดว่าจะสร้างเสร็จและเปิดให้บริการได้ถึงเมืองฮาโกดาเตะในปี ค.ศ. 2015ฮอกไกโดเป็นเกาะใหญ่ที่ตั้งอยู่ตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 83,453 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นพื้นที่ราว22%   ของญี่ปุ่นทั้งประเทศ พูดง่ายๆคือ พอๆกับ พื้นที่ภาคกลางของประเทศไทยเห็นจะได้ แต่กลับมีคนอยู่อาศัยน้อยมาก แค่ประมาณ 5 ล้านคน หรือ ราว 4% ของคนไทยทั้งประเทศเท่านั้น ทั้งนี้เพราะอากาศหนาวเย็นมากกว่าส่วนอื่นๆ ของประเทศ คนจึงอาศัยอยู่น้อยเรียกว่ามีที่ว่างให้ทำมาหากิน อีกมากมาย เทียบกับอื่นๆเลยทีเดียว        ที่ฮอกไกโด มีฤดูหนาวยาวกว่าที่อื่นๆเป็นเดือน และมีหิมะตกหนักอีกด้วย ว่ากันว่ามีอุณหภูมิที่เย็นกว่าโตเกียวถึง 10° หรือมากกว่านั้น ใครจะไปอยู่ก็ต้องรับสภาพประมาณนี้ให้ได้ ดังนั้นบ้านเรือนต้องปิดมิดชิดเพื่อกันหิมะ ถ้าอยากจะออกไปไหนในหน้าหนาวก็ต้องขับรถลุยหิมะไปเช่นเดียวกัน รถไฟมีทั่วถึงในระดับหนึ่ง แต่ว่าไม่ใช่รถไฟความเร็วสูง คุณสามารถนั่งรถไฟข้ามจากสุดด้านนึงไปสุด ไปสุดอีกด้านหนึ่งของเกาะก็ได้ แต่ต้องใช้เวลาเป็นวันเลยทีเดียว แต่ถ้าคุณขับรถก็ต้องใช้เวลาพอๆกัน        ถึงแม้ฮอกไกโดจะมีอุณหภูมิที่หนาวเหน็บกว่าที่อื่น แต่ที่นี่ก็มีดีตรงที่มีที่ราบให้เพาะปลูกมากพอสมควร ทั้งดินภูเขาไฟที่อุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นเหมาะแก่การปลูกพืชหลายหลายชนิด หรือจะเป็นการเลี้ยงสัตว์ เช่น วัวเนื้อหรือวัวนม มีเลี้ยงกันเยอะแยะมากมาย  การประมงก็มีสัตว์น้ำที่แตกต่าง จากถิ่นอื่นๆ เช่น ปูยักษ์  ปลาสารพัดชนิด ทำให้ฮอกไกโด ได้ฉายาว่าเป็น ห้องครัวของญี่ปุ่น เรียกว่าใครไปเที่ยว ที่นี่ นอกจากจะเพลิดเพลินกับธรรมชาติแล้ว จะต้องกินให้พุงกางไปเลย ด้วยถึงจะเรียกว่าไปถึงฮอกไกโดจริงๆ        จุดเด่นของฮอกไกโดอยู่ตรงที่ความงดงามของธรรมชาติ ทั้งภูเขา ทะเลสาบ ภูเขาไฟ พืชพรรณไม้  สัตว์ป่า และความอุดมสมบูรณ์ทางด้านอาหารการกิน  แต่สิ่งที่แตกต่างจากส่วนอื่นๆ ของญี่ปุ่นก็คือ  ฮอกไกโดแทบจะไม่มี โบราณสถานประเภทที่เก่าแก่เป็นพันปีอย่างส่วนอื่นๆ ของญี่ปุ่น  ไม่ว่าจะเป็นวัดหรือปราสาทโบราณต่างๆ  เพราะแต่ดั้งเดิมนั้นคนที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้มีแต่พวกไอนุ (Ainu) ที่เป็นชนเผ่าพื้นเมืองที่ไม่ใช่คนญี่ปุ่น  สืบประวัติกันไปแล้วน่าจะไปทางเป็นญาติกับชาวเอสกีโมทางอลาสก้ามากกว่าส่วนการตั้งถิ่นฐานของคนญี่ปุ่นบนเกาะนี้ เพิ่งจะเริ่มมีร้อยกว่าปีก่อนนี้เอง  โดยตอนแรกคนมาจากเกาะใหญ่ฮอนชูก็เข้าช่องแคบ สึงารุ(Tsugaru)  มายังตอนใต้ของฮอกไกโด        ด้วยเหตุนี้สิ่งก่อสร้างต่างๆบนเกาะฮอกไกโดนี้จึงเกิดขึ้นในยุคร้อยปีเศษ (ประมาณสมัยรัชการที่5)นี่เอง  คือเป็นสิ่งก่อสร้างในยุคอุตสาหกรรมตอนต้น  ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน  ป้อมค่าย  ท่าเรือ  ล้วนแต่เป็นแบบสมัยใหม่ตอนที่ญี่ปุ่นเริ่มเปิดประเทศแล้ว  มีการรับเทคโนโลยีจากชาติตะวันตกเข้ามามากมาย  ชนิดที่คุณจะไม่ค่อยได้เห็นในที่อื่น  แต่ถือว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างของฮอกไกโดที่แตกต่าง จากความโบราณของเมืองเก่าอย่างเกียวโตเมืองนารา ที่เรามักจะนึกถึงบ้านหรือวัดรูปทรงแบบญี่ปุ่น  ผู้คนโบราณก็ต้องแต่งตัวประมาณชุดซามูไร  ผู้หญิงใส่กิโมโน  ถ้าคุณมีโอกาสได้เห็นรูปเก่า  คุณจะเห็นนายทหารใส่เสื้อกั๊กแบบฝรั่ง  พกดาบซามูไรไว้ประดับกาย  แต่มีปืนสั้นคาดเอวกับนาฬิกาพกห้อยโซ่  ผู้ชายใส่สูทผูกหูกระต่าย  ผู้หญิงสูงกระโปรงบานมางานเลี้ยงต่างๆ  ฮอกไกโดจึงเปรียบเสมือนห้องสมุดที่บันทึกภาพสะท้อนของญี่ปุ่นยุคพัฒนาประเทศไว้ได้อย่างครบครันเลยทีเดียว